ยาคุมฮอร์โมนต่ำและยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมมีหลายชนิดหลายรุ่น หากเลือกรุ่นที่ไม่เหมาะกับตัวผู้ใช้ก็อาจจะทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ เช่น อาการเวียนหัว บวมน้ำ คลื่นไส้ เป็นต้น และนอกจากนี้แล้วผู้หญิงหลายๆคนก็มีปัญหาในเรื่องของอาการก่อนมีประจำเดือนไม่ว่าจะเป็นอาการหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น คัดตึงเต้านม อ่อนล้า ซึมเศร้า หรือเป็นสิวจากฮอร์โมน การรับประทานยาคุมฮอร์โมนต่ำก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือนได้ และในบางคนที่รับประทานยาคุมอยู่แล้วมีน้ำหนักตัวเพิ่ม มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ตลอดเวลา อยากจะลองเปลี่ยนยาคุม ลองเปลี่ยนมาเป็นคุมฮอร์โมนต่ำดูค่ะ มาทำความรู้จักยาคุมฮอร์โมนต่ำจากบทความนี้กัน
สารบัญบทความ
- ประโยชน์ของยาเม็ดคุมกำเนิด
- ยาเม็ดคุมกำเนิดมีกี่แบบ
- ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนต่ำคืออะไร
- เริ่มเลือกยาคุม ยังไงดี
- ยกตัวอย่างการเลือกยาคุม
- ข้อดียาคุมฮอร์โมนต่ำ
- ใช้ยาคุมต้องระวังอะไรบ้าง
- ข้อห้ามใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
1. ประโยชน์ของยาเม็ดคุมกำเนิด
ยาเม็ดคุมกำเนิดช่วยป้องกันการตกไข่ ทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้น และทำให้อสุจิผ่านได้ยาก ทำให้เยื่อบุมดลูกบางลงไม่เหมาะกับการฝังตัวของไข่ผสมแล้ว ฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาคุมช่วยเสริมฤทธิ์ของโปรเจสโตรเจนและทำให้รอบเดือนเป็นไปตามปกติ ยาเม็ดคุมกำเนิดจะมีประโยชน์ในเรื่องของ
- ใช้เพื่อการคุมกำเนิด
- ลดอาการก่อนมีประจำเดือน ซึ่งเป็นปัญหากวนใจของหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นอาการหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น คัดตึงเต้านม อ่อนล้า ซึมเศร้า
- เป็นสิวจากฮอร์โมนหรือโรคทางสูตินารีเวช
การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฮอร์โมนต่ำก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือนได้ และในบางคนที่รับประทานยาคุมอยู่แล้วทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ตลอดเวลา อยากจะลองเปลี่ยนยาคุม ก็สามารถลองใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนต่ำช่วยได้
2. ยาเม็ดคุมกำเนิดมีกี่แบบ ยาเม็ดคุมกำเนิดจะแบ่งเป็น 2 แบบ
1.ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ( Progestin-only pill ) ใน 1 เม็ดจะประกอบด้วยยาฮอร์โมนโปรเจสติน เพียงอย่างเดียว โดยที่โปรเจสตินที่มีปริมาณต่ำจะเหมาะสำหรับผู้หญิงที่ให้นมบุตรหรือผู้ที่มีข้อห้ามใช้เอสโตรเจน ส่วนยาคุมฉุกเฉินจะมีโปรเจสตินปริมาณสูง
2.ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ( Combined pill ) ใน 1 เม็ดจะประกอบด้วยยาฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสติน ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีปริมาณเอสโตรเจนและชนิดของโปรเจสติน แตกต่างกันออกไป
ทำความเข้าใจกับตัวยาในยาเม็ดคุมกำเนิด
เอสโตรเจน
ในยาคุมกำเนิดฮอร์โมนรวมชนิดเม็ดแบบรับประทาน แบบฮอร์โมนเท่ากันทุกเม็ดในท้องตลาดจะมีประมาน 4 ขนาด ได้แก่ เอทินิล เอสทราไดออล ( Ethinyl estradiol ตัวย่อ EE ) ขนาด 15 ไมโครกรัม 20 ไมโครกรัม 30 ไมโครกรัม 35 ไมโครกรัม โดยยาคุมที่มี EE ขนาด 15 และ 20 ไมโครกรัม ตามความเข้าใจทั่วไปจะเรียกว่า ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ซึ่งการลดขนาดของเอสโตรเจนในยาคุมจะช่วยลดอาการไม่พึงประสงค์ของยาคุมในเรื่องของอาการเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน บวมน้ำ เจ็บคัดเต้านม และเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดฝ้าจากฮอร์โมนลดลง
โปรเจสติน
มีประมาณ 4 รุ่น แต่ถ้าทำความเข้าใจง่ายๆฮอร์โมนรุ่นที่ 3 และรุ่นที่ 4 เป็นฮอร์โมนที่พัฒนาเพื่อจะลดผลข้างเคียงในเรื่องของอาการผิวมัน สิวขึ้น ขนดก เพิ่มความอยากอาหาร บวมน้ำ โปรเจสตินรุ่นหลังๆจะเป็นที่นิยมใช้ ได้แก่
- เดสโซเจสเทรล ( Desogestrel ) มีอยู่ในชื่อการค้า มินนี่ ( Minny® ) ริต้า ( Rita® ) เมอซิลอน ( Mercilon® ) มาร์วิลอน ( Marvelon® )
- เจสโตรดีน ( Gestrodene ) มีอยู่ในชื่อการค้า เมลิแอนน์ ( Meliane)
- ไซโปรเตอโรน อะซิเตท ( Cyproterone acetate ) มีอยู่ในชื่อการค้า ไดแอน ( Diane® ) พรีม ( Preme® )
- คลอร์มาดินวัน อะซิเตท ( Chlormadinone acetate ) มีอยู่ในชื่อการค้า บีลาร่า ( Belara® )
- โดรสไพริโนน (Drospirenone) มีอยู่ในชื่อการค้า เฮอร์ซ ( Herz® ) ยาส ( Yaz® ) ยาสมิน ( Yasmin® )
3. ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบออร์โมนต่ำคืออะไร?
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบออร์โมนต่ำคือ ยาคุมที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน และ โปรเจสติน โดยมีปริมาณเอสโตรเจนอยู่ที่ 15 หรือ 20 ไมโครกรัม ซึ่งส่งผลให้ลดอาการข้างเคียงหรือลดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีปริมาณเอสโตรเจนมากกว่า 20 ไมโครกรัม เช่น อาการเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน บวมน้ำ เจ็บคัดเต้านม กระตุ้นให้เกิดฝ้าจากฮอร์โมนลดลง เป็นต้น
4. เริ่มเลือกยาคุมยังไงดี
ดูที่ตัวยา – ดูที่ปริมาณเอสโตรเจน
สำหรับคนที่ไม่เคยกินยาเม็ดคุมกำเนิดมาก่อน เริ่มจากการเลือกยี่ห้อของยาเม็ดคุมกำเนิด อาจจะเริ่มจากยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนต่ำก่อน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีปริมาณเอสโตรเจน 20 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนต่ำแต่ไม่ได้ต่ำที่สุดในท้องตลาด ก็จะช่วยลดโอกาสในการเกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน บวมน้ำ เจ็บคัดเต้านม การเกิดฝ้าได้ สำหรับคนที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดแล้วมีอาการบวมน้ำ เวียนหัว มีฝ้าเกิดขึ้นมากผิดปกติ อยากลองปรับเปลี่ยนยาคุม สามารถลองเปลี่ยนมาเป็นตัวที่มีเอสโตรเจนลดลง ดูที่ชนิดโปรเจสติน จากที่กล่าวไปข้างต้นพบว่าตัวโปรเจสตินมีหลายรุ่น โดยอาจจะเลือกโปรเจสตินรุ่นหลังเพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนลง เช่น ผิวมัน ขนดก สิวขึ้น เป็นต้น
เลือกแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด
สำหรับยาคุมที่มีตัวยาฮอร์โมนเท่ากันทุกเม็ด สามารถเลือกใช้แบบ 21 เม็ดหรือ 28 เม็ดก็ได้ เนื่องจากในแผง 28 เม็ด จะมีตัวยาฮอร์โมน 21 เม็ด และมีเม็ดยาหลอก 7 เม็ด แต่การเลือกใช้แบบ 28 เม็ดจะทำให้เราไม่ลืมกินยา ไม่ต้องนับไปอีก 7 วันเหมือนการกินแบบ 21 เม็ด เมื่อกินหมดแผง 28 เม็ดแล้วสามารถกินแผงใหม่ต่อไปได้เลย ดูวิธีกินยาเม็ดคุมกำเนิด แบบ 21 และ 28 เม็ด
ดูที่ราคา
ยาคุมจะมีช่วงราคาค่อนข้างกว้างเนื่องจากการกินยาคุมเป็นค่าใช้จ่ายต่อเนื่องทุกเดือน ผู้ใช้สามารถเลือกราคาที่เหมาะสมสำหรับตัวเองได้ มีตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักร้อย
5. ยกตัวอย่างการเลือกยาคุม
ยาคุมยี่ห้อมินนี่ ( Minny® ) เมอซิลอน ( Mercilon® ) เป็นยาคุมฮอร์โมนต่ำมีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ที่ 20 ไมโครกรัม ทำให้เกิดอาการข้างเคียงในเรื่องของคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ บวมน้ำ เจ็บคัดเต้านม เกิดฝ้า ได้น้อยกว่ายาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงๆ มีฮอร์โมนโปรเจสตินชื่อว่า เดสโซเจสเทรล ( Desogestrel ) เป็นฮอร์โมนรุ่นที่ 3 ซึ่งจะทำให้เกิดผิวมัน ขนดก สิวขึ้น น้อยกว่ายาคุมรุ่นแรกๆ ไม่กระตุ้นความอยากอาหาร และไม่ผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับไขมันในเลือด มีให้เลือกทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ด และราคายาไม่สูงมาก อยู่ช่วงกลางๆประมาน 120-150 บาท สำหรับคนที่น้ำหนักตัวมากมีดัชนีมวลกายมากกว่า 25 kg/m2 แนะนำให้ใช้ยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน 30 ไมโครกรัมแทน เช่น ยาคุมยี่ห้อริต้า ( Rita®) มาร์วิลอน ( Marvelon® )
6. ข้อดีของยาคุมฮอร์โมนต่ำ
- ลดอาการข้างเคียง ไม่เวียนหัว ไม่อ้วน ไม่ฝ้า ไม่เจ็บคัดเต้านม ไม่บวมน้ำ
- ลดอาการก่อนมีประจำเดือน
- ลดความเสี่ยงต่อโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด
7. ใช้ยาคุมต้องระวังอะไรบ้าง
- อาจจะทำให้เลือดออกกะปริบกะปรอย ในช่วง 2-3 แผงแรก เนื่องจากร่างกายกำลังปรับตัว แต่หากยังมีอาการหลังจากหมด 2-3 แผงแรกไปแล้วอาจจะเป็นยาคุมสูตรที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูงขึ้น เช่น ริต้า ( Rita® ) มาร์วิลอน ( Marvelon® ) เป็นต้น
- ห้ามลืมกินยา หรือกินยาตรงเวลาสม่ำเสมอทุกวัน เนื่องจากมีโอกาสท้องสูงกว่ายาคุมที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูงกว่า
8. คนที่มีข้อห้ามใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
สำหรับคนที่ต้องการใช้ยาคุมกำเนิด ผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีและสูบบุหรี่ มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ เบาหวาน ความดัน มีประวัติเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด กำลังหรือเคยเป็นมะเร็งเต้านม เป็นไมเกรน วางแผนจะผ่าตัดและใช้ยาโรคประจำตัว แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา สำหรับคนที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแล้วมีอาการข้างเคียงที่รุนแรงปวดหัวรุนแรง ไมเกรน ตาพร่ามัว เจ็บหน้าอก หรือหัวใจเต้นแรง ปวดท้องรุนแรง แนะนำให้หยุดยาและไปพบแพทย์ทันทีนะคะ
ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเก็บรักษา และการกินยาอย่างสม่ำเสมอตรงต่อเวลา และปัจจัยอื่นๆ ในเรื่องของอาการข้างเคียงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตัวบุคคล
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ ฝากติดตามบทความต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
Reference :
- Birth control. https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/birth-control/in-depth/best-birth-control-pill/art-20044807
- Low-Dose and Ultra-Low-Dose Birth Control Pills. https://www.webmd.com/sex/birth-control/low-dose-birth-control-pills.
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK563211/

เภสัชกรอิสรีย์ (นิก) นะคะ จบจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาแบ่งปันความรู้ด้านสุขภาพและอาหารเสริม หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ติดต่องาน : LINE @Bhaewow
E-mail : bhaewow@gmail.com
ติดตามเราได้ที่ : Youtube Bhaewow