สวัสดีค่ะ เภว๊าว ว๊าวความรู้คู่สุขภาพ วันนี้จะมาพูดเรื่องลบรอยสักคิ้วนะคะ
ในปัจจุบันมีการสักเพื่อความสวยงามกันมากขึ้น ถึงแม้ว่าตอนสักอาจจะดูไม่ยุ่งยาก เวลาสักอาจจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว แต่หากสักมาแล้วได้คิ้วที่ไม่เท่ากัน หนาเกินไป หรือมีสองหาง ทำให้เราต้องการลบรอยสักคิ้ว ซึ่งปัจจุบันอาจจะมีการลบรอยสักหลายวิธี ได้แก่ การลบโดยการสักสีเนื้อทับ การใช้น้ำยาลบรอยสัก การเลเซอร์ เป็นต้น
การลบโดยการสักสีเนื้อทับ อาจจะทำให้ผิวดูลอยขึ้นมา หรือเป็นเงาบริเวณที่เราสักทับ และทำให้ผิวบริเวณที่สักทับมีความหนาไม่เรียบเนียนไปกับผิวจริง อีกทั้งเมื่อสีเนื้อจางลงก็จะทำให้สีคิ้วของเราที่สักไปก่อนหน้าลอยขึ้นมาอีกรอบได้

Credit: Adenaa.com
การใช้น้ำยาเคมีลบรอยสัก ซึ่งมีราคาถูกกว่าการเลเซอร์ แต่ควรจะทำการศึกษาชนิด ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยของน้ำยาก่อนตัดสินใจ โดยน้ำยานั้นควรจะได้รับมาตราฐานสากล ซึ่งการใช้น้ำยาจะทำในลักษณะคล้ายกับการสักคิ้วโดยมีการลงเข็มไปที่ผิวหนังชั้นนอกเพื่อเป็นการเอาน้ำยาเข้าไปที่ใต้ชั้นผิวหนังและทำปฏิกิริยากับสีสักดูดสีขึ้นมา ซึ่งจะต้องทำซ้ำหลายรอบเช่นเดียวกับการเลเซอร์ และอาจจะต้องมีการทำเลเซอร์เพิ่มเติมในภายหลัง
และหากเป็นน้ำยาเคมีที่ไม่ได้มาตราฐานสากลไม่มีเอกสารรองรับอาจจะเป็นน้ำยาเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดกัดกร่อนผิวทำลายเนื้อเยื่อให้เปลี่ยนไปซึ่งเป็นอันตรายมากและอาจเกิดแผลเป็นถาวร ดังนั้นหากต้องการลบรอยสักด้วยน้ำยาจึงต้องศึกษาข้อมูลอย่างรอบครอบ และตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง

ภาพแสดงหลักการทำงานของน้ำยา Rejuvi Credit: redeem-clinic.co.uk
ในปัจจุบันการลบรอยสักด้วยเครื่องเลเซอร์จึงเป็นที่นิยมและมีความปลอดภัย สามารถลบได้หมด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แม้ราคาอาจจะสูงกว่าวิธีอื่นๆ แต่ก็เห็นผลอย่างชัดเจน ที่สำคัญรอยแผลเป็นที่มาจากการเลเซอร์ อาจจะไม่มีหรือมีน้อยมาก โดยการเลเซอร์เป็นการปล่อยพลังงานทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัวและถูกดูุดซึมออกจากร่างกาย ซึ่งเครื่องเลเซอร์ในประเทศไทยที่นิยมใช้ลบรอยสัก ในปัจจุบันจะประกอบด้วยเครื่องเลเซอร์ Q-switched laser และ Picoway laser
Q-switched laser จะปล่อยพลังงานแสงออกมาในระยะเวลาหน่วยเป็น nanosecond ทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว หลังจากนั้นเม็ดเลือดขาวจะดูดซึมหรือย่อยสลายเม็ดสีที่ผิดปกติ และจะถูกขับออกเป็นของเสียออกจากร่างกายซึ่งจำนวนครั้งการยิงก็ขึ้นอยู่กับความตื้นลึกของเม็ดสีในบริเวณนั้น และหลังจากยิงแล้วบริเวณนั้นจะมีสีเข้มขึ้น เกิดการตกสะเก็ดและหลุดออกไป สภาพผิวก็จะค่อย ๆ กลับมาสู่ความปกติ เนื่องจากการใช้เครื่องเลเซอร์แบบ Q-switched laser ปล่อยพลังงานแสงอาจมีผลทำให้เกิดอาการบวม แดง หรือหากใช้โดยไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นไหม้ได้
Picoway laser คือเทคโนโลยีเลเซอร์ใหม่ล่าสุด ในการกำจัดเม็ดสี โดยเครื่องจะปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาในระยะเวลาที่สั้นมากๆ (ultrashort pulse) หน่วยเป็น picosecond (1ps พิโคเซคคันด์ = 1 ใน ล้านล้านวินาที) 1 Picosecond เป็นระยะเวลาที่สั้นกว่า 1 nanosecond 1000 เท่า จากการศึกษา พบว่าการใช้เลเซอร์ระดับ Picosecond นี้ จะสามารถทำให้เม็ดสีหรือหมึกรอยสัก แตกตัวได้มาก จนกลายเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากๆ (miniscule particles) ซึ่งต่างจากรุ่นเดิมที่เป็น Q-switched laser หรือ nanosecond ที่พบการแตกตัวน้อยกว่าและมีขนาดใหญ่กว่า เมื่อเม็ดสีแตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กมากๆ จึงถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ผลการรักษาเรื่องลบรอยสักและเม็ดสี ได้ผลดีขึ้น ใช้จำนวนครั้ง และมีอาการบวมน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีเดิม

ปัจจัยหนึ่งของการลบรอยสักจะยากหรือง่าย ขึ้นอยู่กับความลึกของการสักโดยช่างที่สักด้วย ซึ่งหากสักเข้าไปลึกจะทำให้รอยสักติดทนทาน การลบออกต้องใช้เวลาในการลบมากทีเดียว โดยทั่วไปการลบรอยสักจะทำประมาณ 4-8 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะห่างกันประมาณ 1-2 เดือน
ขั้นตอนในการลบรอยสัก ก่อนทำการเลเซอร์ลบรอยสักต้องทายาชาก่อนประมาณ 1 ชม. หลังจากการลบรอยสักจะเป็นแผลประมาณ 1-2 สัปดาห์ ถ้าดูแลแผลไม่ดีทำให้แผลติดเชื้อและทำให้เกิดแผลเป็นได้ และผิวอาจจะไม่สม่ำเสมอ การทำเลเซอร์หลายครั้ง มีโอกาสที่จะทำให้เกิดแผลเป็นใต้ผิวได้ และหลังจากลบรอยสักแล้วอาจทำให้เห็นแผลเป็นที่เกิดจากการสักได้อีกด้วย

เตรียมตัวก่อนไปลบรอยสักด้วยเครื่องเลเซอร์
- เว้นระยะห่างจากการสักอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวหนังได้พักและซ่อมแซมกลับสู่สภาพที่แข็งแรง ไม่มีแผลสดที่เกิดจากการสัก
- งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจส่งผลให้สภาพผิวผิดปกติได้ง่ายเช่นการเกิดจ้ำเลือด
- งดการรับประทานยาหรือวิตามิน หากจำเป็นต้องรับประทานยาหรือวิตามินเพื่อรักษาโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลเซอร์ลบรอยสัก เนื่องจากยาหรือวิตามินบางชนิดส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
เพื่อนๆจะเห็นได้ว่า การลบรอยสักนั้นไม่ง่ายเลย และใช้เวลานานมากทีเดียว นอกจากนั้นยังต้องมาดูแลเพื่อไม่ให้เกิดแผลเป็นตามมา ดังนั้นหากใครต้องการสักจึงควรตัดสินใจ ศึกษาสถานที่ที่ต้องการสักที่ได้รับใบอนุญาติให้ทำการสักจากสำนักงานสาธาณสุข สีที่ใช้ได้มาตราฐานสากล และแนวทางการสักของช่างสักแต่ละท่านให้ดีจะได้ไม่ต้องเสียใจ เสียเวลาลบรอยสักในภายหลังนะคะ
Credit picture :Woman photo created by Dragana_Gordic – www.freepik.com

เภสัชกรอิสรีย์ (นิก) นะคะ จบจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาแบ่งปันความรู้ด้านสุขภาพและอาหารเสริม หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ติดต่องาน : LINE @Bhaewow
E-mail : bhaewow@gmail.com
ติดตามเราได้ที่ : Youtube Bhaewow