เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้หญิงจำนวนมาก โดยเฉพาะในวัยเจริญพันธุ์ ภาวะนี้เกิดจากเนื้อเยื่อที่ปกติควรอยู่ภายในโพรงมดลูก กลับไปเจริญเติบโตนอกโพรงมดลูก ก่อให้เกิดอาการปวดประจำเดือนรุนแรง ปวดท้องเรื้อรัง แม้ว่าการรักษาหลักจะเป็นการรักษาทางการแพทย์ แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารก็มีบทบาทสำคัญในการบรรเทาอาการและช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บทความนี้พูดถึงการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม เพื่อบรรเทาอาการของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
สารบัญบทความ
อาหารที่ไม่ดีต่อผู้ที่มีภาวะ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
อาหารที่ดีต่อผู้ที่มีภาวะ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
อาหารเสริมสำหรับผู้ที่มีภาวะ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
บทส่งท้าย
อาหารที่ไม่ดีต่อผู้ที่มีภาวะ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการศึกษาออกมาชัดเจนว่าอาหารเหล่านี้มีผลต่อภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ แต่เป็นไปได้ว่าอาหารเหล่านี้อาจจะส่งผลให้ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่แย่ลงได้ ได้แก่
1.อาหารที่มีไขมันทรานส์สูง มีการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่มีการรับประทานอาหารที่มีไขมันทรานส์ มัพยได้ในอาหารทอด อาหารแปรรูป คุ๊กกี้ เบเกอรี่ เป็นต้น
2.มีการรับประทานเนื้อเแดงปริมาณมาก เนื่องจากอาจมีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น โพลีไซคลิกกอโรมาติกไฮโดรคาร์บอน(PAH) และ เฮเทอโรไซคลิกอโรมาติกเอมีน(HAA) และยังรวมถึงเนื้อสัตว์แปรรูป จะมีสารไนโตรซามีน (Nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ดังนั้นหากต้องการบริโภคเนื้อแดงจึงควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และรับประทานโปรตีนจากแหล่งที่หลากหลายเช่น โปรตีนจากไก่ และโปรตีนจากถั่ว
3.กลูเตน มีการศึกษาพบว่าร้อยละ 75 ของผู้หญิงที่มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่จำนวน 207 คน มีอาการปวดลดลงหลังจากรับประทานอาหารที่มีกลูเตนลดลง
4.รับประทานอาหารที่มีองค์ประกอบเป็นคาร์โบไฮเดรต น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวและโมเลกุลคู่รวมหลากชนิดปริมาณมาก หรือเรียกอีกอย่างว่าอาหารกลุ่ม High-FODMAP (Fermentable Oligosaccharides, Disaccharides, Monosaccharides And Polyols) ได้แก่
-ฟรุกโตส ที่ได้จากผลไม้
-แล็กโตส ที่ได้จากผลิตภัณฑ์จากนมวัว นมแพะ นมแกะ โยเกิร์ต ไอศกรีม
-ฟรุคแทน พบได้ในข้าวไรย์ ข้าวสาลี หน่อไม้ฝรั่ง บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี หัวหอม กระเทียม
-กาแลกแทน พบได้ในพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่ว (รวมทั้งถั่วอบ) ถั่วเลนทิล ถั่วชิกพี และถั่วเหลือง
-โพลีออล พบได้ในแอลกอฮอล์น้ำตาลและผลไม้ที่มีเมล็ดหรือเมล็ด เช่น แอปเปิล แอปริคอต อะโวคาโด เชอร์รี มะกอก พีช ลูกแพร์ หรือพลัม
หากรับประทานในปริมาณมากอาจส่งผลต่อภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งอาหารที่รับประทานจะส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายและส่งผลต่อภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบ และทำให้เกิดอาการปวดได้ในอนาคต
อาหารที่ดีต่อผู้ที่มีภาวะ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
อาหารที่จะช่วยลดการอักเสบและอาการปวดของผู้ที่มีภาวะนี้คืออาหารที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกายและเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีกากไย เป็นอาหารที่อุดมวิตามินและแร่ธาตุ ได้แก่
1.อาหารที่มีกากไยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวไม่ขัดสี
2.อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักใบเขียว ถั่ว และธัชพืชต่างๆ
3.อาหารที่มีกรดไขมันจำเป็นและไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู วอลนัท เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ ไข่ อะโวคาโด น้ำมันมะกอก
4.อาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เช่น ช็อกโกแลคเข้มข้น 80% เปอร์เซ็นต์ บีทรูท ผักโขม ขิง ขมิ้น อบเชย ใบบัวบก กระเทียม เป็นต้น
พบว่าหากรับประทานอาหารที่มีกากไยสูงนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังช่วยลดระดับเอสโตรเจนในร่างกายซึ่งเป็นหนึ่งในข้อสันนิษฐานว่ามีส่วนส่งผลต่อภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ การรับประทานผักผลไม้ช่วยทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย
อาหารเสริมสำหรับผู้ที่มีภาวะ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- อาหารเสริมกลุ่มต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี และวิตามินอี มีการศึกษาในผู้ที่มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ 59 คน ได้รับวิตามินอี 1200 IU และวิตามินซี 1000 IU พบว่าช่วยลดอาการปวดเรื้อรังและลดการอักเสบ
- มีการศึกษาพบว่าการรับประทานอาหารเสริม ซิงค์ วิตามิน เอ ซี อี ช่วยลดอนุมูลอิสระ และเพิ่มประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระ
- ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรไทยทีมีการศึกษาและรู้จักกันมานาน ช่วยในเรื่องของลดการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง มีการศึกษาพบว่าขมิ้นชันช่วยยับยั้งให้เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกผลิตเอสโตรเจนลดลง
ข้อควรระวัง
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรับประทานอาหารเสริมใด ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับสภาพร่างกาย และไม่เกิดปฎิกิริยากับยาที่ใช้อยู่
- การปรับเปลี่ยนอาหารและการใช้ชีวิต เช่น การลดการบริโภคอาหารแปรรูป น้ำตาล คาเฟอีน และแอลกอฮอล์ รวมถึงการเพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อาจช่วยบรรเทาอาการของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
บทส่งท้าย
การดูแลภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ไม่เพียงแต่ต้องพึ่งพาการรักษาทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังสามารถบรรเทาอาการและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ด้วยการเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสม อาหารที่ช่วยลดการอักเสบ ปรับสมดุลฮอร์โมน และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ผักใบเขียว ธัญพืชเต็มเมล็ด โปรตีนคุณภาพดี และไขมันดีจากโอเมก้า-3 ล้วนมีส่วนสำคัญในการดูแลอาการของโรคนี้
อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินควรทำควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกายที่เหมาะสม การลดความเครียด และการนอนหลับที่เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สุดท้ายนี้ ทุกคนมีร่างกายที่แตกต่างกัน ควรสังเกตการตอบสนองของร่างกายต่ออาหารที่รับประทาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ และปรึกษานักโภชนาการเพื่อวางแผนการรับประทานให้เหมาะกับสภาพร่างกายของตัวเอง และส่งเสริมการรักษาให้มีประสิทธิภาพที่สุด
อ้างอิง
1.Low FODMAP Diet & Foods: Everything You Need to know
2.สัตว์เนื้อแดง บริโภคมากเกินไปเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่จริงหรือ
3.The link between endometriosis and diet
4.ขมิ้น สรรพคุณและประโยชน์ของขมิ้นชัน

เภสัชกรอิสรีย์นะคะ จบจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาแบ่งปันความรู้ด้านสุขภาพและอาหารเสริม หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ติดต่องาน : LINE @Bhaewow
E-mail : bhaewow@gmail.com
ติดตามเราได้ที่ : Youtube Bhaewow