นมผึ้งคืออะไร
นมผึ้งสารอาหารที่ผลิตจากผึ้งงานให้กับนางพญาผึ้ง มีสีครีมหรือสีเหลืองอ่อนคล้ายนมข้นที่มีประโยชน์หรือคุณค่าทางโภชนาการสูง (Superfood) โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้กันมาอย่างยาวนานในฝั่งประเทศแถบตะวันตก
ประโยชน์ของนมผึ้ง
นมผึ้งมีประโยชน์ทางด้านสุขภาพมากมาย มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทรีเรีย โดยส่วนประกอบของน้ำผึ้งจะประกอบด้วยน้ำ 50-60% โปรตีน18% คาร์โบไฮเดรต15% ไขมัน3-6% และแร่ธาตุ1.5% นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของวิตามินบี และสารโพลีฟีนอลที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเป็นส่วนประกอบอีกด้วย
นมผึ้งช่วยชะลอวัย
ด้วยฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดผิวคล้ำเสีย ช่วยกระตุ้นให้การผลัดเซลล์ของผิวเป็นไปตามธรรมชาติมากขึ้น เราจึงมักพบนมผึ้งผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย และด้วยฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทรีเรีย ทำให้แผลจากสิวหายเร็วขึ้น
นมผึ้งช่วยบรรเทาอาการวัยทอง
อาการวัยทองเกิดจากภาวะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพร่างกายและด้านอารมณ์ที่แปรปรวน มีการศึกษาส่วนใหญ่พบว่าการรับประทานนมผึ้งเป็นเวลา 8 สัปดาห์ จะช่วยลดอาการวัยทองได้ และมีการศึกษาในผู้หญิงหมดประจำเดือน 42 คน โดยให้รับประทานนมผึ้ง 800 มิลลิกรัมเป็นเวลา 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดอาการปวดหลังและภาวะวิตกกังวลได้
นมผึ้งช่วยบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน
อาการก่อนมีประจำเดือนเกิดจากภาวะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงก่อนมีรอบเดือน เช่น อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า รับประทานอาหารมากขึ้น มีการศึกษาในนักศึกษาแพทย์จำนวน 110 คน โดยให้รับประทานนมผึ้งขนาด 1000 มิลลิกรัม เป็นเวลา 8 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันแรกที่เป็นประจำเดือนพบว่านมผึ้งสามารถลดอาการก่อนมีประจำเดือนได้
นมผึ้งช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น
พบว่านมผึ้งช่วยลดสารคัดหลั่งบริเวณแผลและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ระยะเวลาในการเกิดแผลลดลง รวมถึงนมผึ้งยังช่วยทำให้แผลที่เท้าในผู้ป่วยเบาหวานหายเร็วขึ้น เนื่องจากฤทธิ์ในการต้านเชื้อจุลชีพและไปฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดที่ไปช่วยทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดได้ดีขึ้น
ปริมาณที่แนะนำให้รับประทาน
ในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาในเรื่องของขนาดรับประทานที่ชัดเจน แต่พบว่ามีขนาดการใช้นมผึ้งอยู่ในช่วง 300-6000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่แนะนำให้รับประทานในขนาดที่ต่ำก่อนเนื่องจากอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคนได้ สำหรับอาการวัยทองแนะนำให้รับประทานวันละ 1000 มิลลิกรัม เป็นเวลา 8 สัปดาห์ รับประทานตอนท้องว่างก่อนอาหาร 15 นาที หรือก่อนนอน 30 นาที
ข้อควรระวัง
1.หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตรยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่เพียงพอ
- คนที่มีโรคประจำตัวเป็นหอบหืดหรือมีภาวะภูมิแพ้ อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ โดยเฉพาะคนที่เคยแพ้ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง เช่น คนที่เคยแพ้น้ำผึ้ง หรือขี้ผึ้ง เป็นต้น
- คนที่มีความดันโลหิตต่ำ เนื่องจากนมผึ้งอาจจะทำให้ความดันต่ำได้
นมผึ้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้กันมาอย่างยาวนาน แต่การยังต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับขนาดการใช้ที่ชัดเจน และประโยชน์จากการรับประทานนมผึ้งเพิ่มเติมอีกมาก สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาประจำอยู่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้งที่จะรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิด และรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างปลอดภัยโดยรับประทานตามขนาดขอองผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกแนะนำให้รับประทาน
Reference:
- “ROYAL JELLY”. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-503/royal-jelly
- “Summary of royal jelly”. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://examine.com/supplements/royal-jelly/
- “Effect of royal jelly on premenstrual syndrome among Iranian medical sciences students”. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/25146061/
- “Honey, Propolis, and Royal Jelly: A Comprehensive Review of Their Biological Actions and Health benefits”. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จากhttps://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5549483/
CREDIT: PIXABAY .com
เภสัชกรอิสรีย์นะคะ จบจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาแบ่งปันความรู้ด้านสุขภาพและอาหารเสริม หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ติดต่องาน : LINE @Bhaewow
E-mail : bhaewow@gmail.com
ติดตามเราได้ที่ : Youtube Bhaewow