แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา (Apple cider vinegar : ACV) หรือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล  หนึ่งในอาหารทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ในปัจจุบันคนให้ความใส่ใจต่อสุขภาพมากขึ้น และเนี่องจากน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะสารโพลีฟีนอล มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และมีประโยชน์หลายด้านต่อสุขภาพ เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและปลอดสารเคมี ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การบริโภคแบบ “ธรรมชาติ” และ “ออร์แกนิก” ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เรามาทำความรู้จัก แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา ผ่านบทความนี้กันค่ะ

สารบัญบทความ

1. แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา คืออะไร
2. แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา มีประโยชน์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
3. วิธีรับประทาน แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา
4. แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่
5. เคล็ดลับการเลือกซื้อ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกาคุณภาพดี
6. ข้อควรระวังในการใช้ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา

แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา คืออะไร

แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา (Apple cider vinegar) เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากแอปเปิ้ล มีรสชาติเปรี้ยวจัด ไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วนประกอบทำจาก แอปเปิ้ล น้ำตาล และน้ำสะอาด โดยนำส่วนผสมทั้งหมดไปหมักในโหลแก้วที่สะอาด เก็บไว้ในที่มืดอุณหภูมิประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส โดยการหมักจะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน ซึ่งระยะเวลาและขั้นตอนในการทำจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5-7 สัปดาห์ (ขั้นตอนและรายละเอียดในการทำอาจแตกต่างกันออกไป) สารที่ได้จากการหมักจะเป็นสารกลุ่มกรดอะซิติก (acetic) มาจากคำว่า อะซิตัม (acetum)  มีรากศัพท์จากภาษาละตินแปลว่า น้ำส้มสายชู น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลประมาณ 5% ถึง 6% ประกอบด้วยกรดอะซิติก นอกจากนี้ยังมีน้ำและกรดอื่นๆ ในปริมาณเล็กน้อย เช่น กรดมาลิก หนึ่งช้อนโต๊ะหรือ 15 มิลลิลิตร จะมีแคลอรี่ประมาณ 3 แคลอรี่และแทบไม่มีคาร์โบไฮเดรตเลย

แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา มีประโยชน์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

มีการกล่าวถึงประโยชน์ของน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมากมายแต่หลายผลการศึกษายังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน และหลายการศึกษาเป็นการศึกษาระยะสั้น และผู้เข้าร่วมการศึกษามีจำนวนน้อย โดยมีข้อมูลพบว่าน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีประโยชน์ดังนี้

1.การควบคุมน้ำหนัก น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่ม มีการศึกษาบางชิ้น ที่ชี้ว่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมัน

2.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลอาจช่วยลดการตอบสนองต่อน้ำตาลหลังมื้ออาหารและเพิ่มความไวต่ออินซูลิน

3.ผลต่อระบบย่อยอาหาร น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีคุณสมบัติเป็นโปรไบโอติก ซึ่งอาจส่งเสริมสุขภาพลำไส้ให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

4.คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีสารโพลีฟีนอลที่อาจช่วยต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยลดการอักเสบในร่างกาย

5.สุขภาพหัวใจ มีการศึกษาที่ชี้ว่าอาจช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ (ไขมันเลว) ที่มักจะส่งผลต่ออวัยวะต่างๆในร่างกายรวมถึงหลอดเลือดหัวใจ

6.สุขภาพผิว การใช้ภายนอกอาจช่วยในการรักษาสิว หรือแก้ปัญหาผิวบางอย่าง

วิธีรับประทาน แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา สามารถรับประทานได้กับอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด เช่น

1.ผสมกับน้ำดื่ม

ส่วนผสม: แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา 1-2 ช้อนโต๊ะ กับ น้ำเปล่า 1 แก้ว (ประมาณ 240 มิลลิลิตร)

วิธีรับประทาน: ผสมกับน้ำดื่ม สามารถดื่มก่อนอาหารหรือหลังอาหารก็ได้ วันละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยในการย่อยอาหารและควบคุมน้ำหนัก

เคล็ดลับ: หากรู้สึกว่ารสชาติเปรี้ยวเกินไป สามารถเติมน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสชาติ

2.ใช้ในสลัดหรืออาหาร

ส่วนผสม: ใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา แทนน้ำส้มสายชูปกติในสลัด หรือเป็นส่วนผสมในน้ำสลัด

วิธีรับประทาน: ใช้ในการทำสลัดน้ำใส หรือเป็นส่วนผสมในอาหาร เช่น หมักเนื้อสัตว์ ซอส หรือใช้แทนน้ำส้มสายชูในการทำอาหาร

3.ดื่มร่วมกับชาหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ

ส่วนผสม: แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา 1-2 ช้อนชา และ ชาสมุนไพรหรือชาเขียว 1 ถ้วย ผสมกับ น้ำผึ้งเล็กน้อย (ถ้าต้องการ)

วิธีรับประทาน: ผสมลงในชาสมุนไพรหรือชาเขียว สามารถดื่มร้อนหรือเย็นก็ได้

4.การใช้ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา กับน้ำผึ้ง

ส่วนผสม: แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับ น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และ น้ำอุ่น 1 แก้ว

วิธีรับประทาน: ผสมกับน้ำผึ้งและน้ำอุ่น ดื่มในตอนเช้าขณะท้องว่างเพื่อช่วยบำรุงสุขภาพและเสริมภูมิคุ้มกัน

แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลไม่ได้มีผลลดน้ำหนักได้โดยตรง การลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพควรมาพร้อมกับการรับประทานอาหารที่สมดุลและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  แต่การรับประทานจะช่วยส่งเสริมระบบการทำงานของร่างกาย ทำให้ช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนัก ได้แก่

1.เพิ่มความอิ่ม พบว่ามีส่วนช่วยเพิ่มความรู้สึกความอิ่ม ทำให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ทำให้รับประทานอาหารน้อยลง

2.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด พบว่าช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร ซึ่งสามารถลดความอยากอาหารหวานและขนมขบเคี้ยวระหว่างมื้อได้ การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ยังช่วยลดโอกาสการสะสมของไขมัน

3.เพิ่มการเผาผลาญไขมัน มีการกล่าวถึงว่าอาจจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย ซึ่งช่วยในการสลายไขมันส่งผลต่อน้ำหนัก

4.ลดการสะสมของไขมันในร่างกาย บางการศึกษาพบว่าอาจช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง

5.ควบคุมการย่อยอาหารและลดอาการท้องอืด โดยจะช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เคล็ดลับการเลือกซื้อ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกาคุณภาพดี

1.เลือกแบบออร์แกนิก เลือกที่ได้รับการรับรองว่าเป็นออร์แกนิก เพื่อให้แน่ใจว่าแอปเปิ้ลที่ใช้ในการผลิตปลอดสารเคมีและยาฆ่าแมลง

2.หลีกเลี่ยง ที่มีการปรุงแต่งรสหรือเติมสารกันบูด เลือกซื้อแบบธรรมชาติที่ไม่มีส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น น้ำตาล สารกันบูด หรือสารปรุงแต่งอื่น ๆ

3.เลือกจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความเชื่อถือในตลาด อ่านรีวิวจากผู้บริโภคและตรวจสอบข้อมูลบนฉลากเพื่อให้แน่ใจว่าได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

4.ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ ควรเลือกที่บรรจุในขวดแก้วสีชาหรือสีเข้ม เนื่องจากบรรจุภัณฑ์นี้จะช่วยป้องกันแสงและคงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดีกว่าขวดพลาสติก

5.ตรวจสอบวันหมดอายุบนขวดเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ายังไม่หมดอายุและคงความสดใหม่อยู่

6.พิจารณากระบวนการผลิต บางแบรนด์อาจระบุถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือใช้วิธีการหมักที่ใช้เวลานานกว่า ซึ่งอาจบ่งบอกถึงคุณภาพที่ดีและรสชาติที่เข้มข้นกว่า

ข้อควรระวังในการใช้ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา 

การใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล Apple Cider Vinegar (ACV) มีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรทราบเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่

1.ความเป็นกรดสูง

– อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก เนื่องจากน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีความเป็นกรดสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดการสึกกร่อนของเคลือบฟันเมื่อดื่ม น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเป็นประจำ ควรเจือจางด้วยน้ำ และดื่มด้วยหลอดเพื่อลดการสัมผัสกับฟัน

– เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร  เนื่องจากความเป็นกรดของน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกหรือระคายเคืองกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารอยู่แล้ว เช่น กรดไหลย้อนหรือแผลในกระเพาะอาหาร

2.ผลกระทบต่อระดับโพแทสเซียม และทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด

– อาจส่งผลทำให้ระดับโพแทสเซียมต่ำ มีรายงานว่าน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีผลต่อระดับโพแทสเซียมในเลือด ดังนั้นจึงต้องควรระวังการรับประทานร่วมกับยาที่มีผลลดระดับโพแทสเซียม โดยเฉพาะกลุ่มยาขับปัสสาวะ หรือกลุ่มยาที่รักษาความดันโลหิตสูง

3.ระคายเคืองผิวหนัง

– สำหรับการใช้ภายนอก หากใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลในการดูแลผิวหรือเส้นผม ควรเจือจางด้วยน้ำก่อน เพราะความเป็นกรดอาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง หรือเกิดการแพ้ในบางคน ควรทำการทดสอบบนผิวหนังบริเวณเล็ก ๆ ก่อนใช้งานจริง

4.การใช้ในระยะยาว

– ผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม การใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลในปริมาณมากเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ควรใช้เป็นทางเลือกเดียวในการรักษาสุขภาพ

5.ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่ม

– สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลอาจมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา เพื่อป้องกันการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

– ผู้ป่วยโรคกระเพาะหรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลหรือใช้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจทำให้อาการแย่ลง

6.การบริโภคที่มากเกินไป

– ไม่ควรดื่มน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลโดยตรงในปริมาณมาก การดื่มที่ไม่ได้เจือจางหรือดื่มในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ ควรดื่มในปริมาณที่แนะนำ ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน และเจือจางด้วยน้ำเสมอ

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีประโยชน์หลากหลายในชีวิตประจำวัน  โดยอาจจะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและสนับสนุนการลดน้ำหนัก  นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร เช่น น้ำสลัดหรือหมักเนื้อ การใช้ภายนอกรวมถึงการบำรุงผิวและผม รวมทั้งใช้ทำความสะอาดบ้าน อย่างไรก็ตาม ควรระวังเรื่องการกัดกร่อนเคลือบฟันและการระคายเคืองกระเพาะอาหาร  โดยเฉพาะในผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร และควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้หากกำลังรับประทานยา เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยากับยาบางชนิดได้ ถึงแม้ว่าจะมีการศึกษามากมายเกี่ยวกับ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา แต่ข้อมูลในการศึกษาบางฉบับยังไม่ชัดเจน กลุ่มการศึกษาค่อนข้างมีขนาดเล็ก ดังนั้นควรใช้อย่างระมัดระวังในปริมาณที่เหมาะสม และสุดท้ายนี้การใช้ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา อย่างถูกต้องและระมัดระวังจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์นี้ได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีผลที่ไม่พึงประสงค์

หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากติดตามบทความอื่นๆใน Bhaewow.com ด้วยนะคะ

คำถามเกี่ยวกับ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา ที่พบบ่อย

1.ควรกิน แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา วันละเท่าไหร่

ตอบ แนะนำให้กินวันละไม่เกิน 1-2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ เครื่องดื่ม หรือว่าอาหาร

2.สามารถกิน แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา ได้ทุกวันหรือไม่

ตอบ สามารถกิน แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา ได้ทุกวันในปริมาณที่เหมาะสม ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงโรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ อยู่ด้วย หากรับประทานติดต่อกันนานเกินไปอาจจะส่งผลต่อการระคายเคืองกระเพาะอาหาร และการกัดกร่อนเนื้อฟันได้

3.ผลข้างเคียง ผลเสียที่อาจจะเกิดจากการกิน แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา

ตอบ หากกิน แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารหรือกัดกร่อนเคลือบฟันได้ ควรใช้หลอดดูด และกินในปริมาณวันละไม่เกิน 1-2 ช้อนโต๊ะ

4.แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา ยี่ห้อไหนดี

ตอบ ในท้องตลาด แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใส่สารปรุงแต่ง และเป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิก

5.แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา ลดน้ำหนักได้จริงไหม

ตอบ มีการศึกษาพบว่า แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา ช่วยลดความอยากอาหาร ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการลดน้ำหนัก

อ้างอิง

1. Apple cider vinegar: Health Harvard
2. Apple cider vinegar and weight loss: learn the facts

bhaewow (เภว๊าว)

เภสัชกรอิสรีย์นะคะ  จบจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาแบ่งปันความรู้ด้านสุขภาพและอาหารเสริม หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ติดต่องาน : LINE @Bhaewow
E-mail : bhaewow@gmail.com
ติดตามเราได้ที่ : Youtube Bhaewow

www.bhaewow.com/contact-us