ดีเอชเอสำหรับเด็ก เป็นกรดไขมันโอเมก้า-3 มีชื่อเต็มว่า กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) โดยปกติกรดไขมันนี้สามารถพบได้ในสมอง 15-20% และพบในจอประสาทตา 30-60% มีการศึกษามากมายที่แสดงถึงประโยชน์ของดีเอชเอสำหรับเด็ก ทำให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่นิยมสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยเด็กที่พ่อแม่นิยมเสริมอาหารให้กับลูก
สารบัญบทความ
1. ประโยชน์ของ ดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) ในพัฒนาการสมองสำหรับเด็ก
2. ดีเอชสำหรับเด็ก (DHA) ช่วยลดการเกิดภูมิแพ้ในเด็กเล็ก
3. อาหารที่มีดีเอชเอสำหรับเด็ก แหล่งอาหาร (DHA) สูงเหมาะสำหรับเด็ก
4. ปริมาณ ดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) ที่เหมาะสมในแต่ละวัย
5. การเลือกดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
6. 5 อาหารเสริม ดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) ทางเลือกเพื่อสุขภาพสำหรับเด็ก
1.ประโยชน์ของ ดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) ในพัฒนาการสมองสำหรับเด็ก
ดีเอชเอสำหรับเด็กเป็นสารอาหารสำคัญในการสร้างสมองและตาของเด็กทารก ดีเอชเอช่วยต้านการอักเสบ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น ดีเอชเอมีประโยชน์ช่วยให้การทำงานประสานกันระหว่างมือและตาให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยส่งเสริมการแก้ปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพของความจำ ทำให้เด็กมีสมาธิจดจ่อได้นานขึ้น สามารถปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น มีการศึกษาพบว่าเด็กที่ได้รับดีเอชเอจากแม่ที่กินอาหารที่มีดีเอชเอตั้งแต่เด็กอายุ 4 เดือนและได้รับสารอาหารจากนมแม่ สมองจะสามารถประมวลผลข้อมูลได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้รับสารอาหารที่มีดีเอชเอ
ดังนั้นนอกจากเด็กที่ควรจะได้รับดีเอชเอสำหรับเด็กในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรก็ควรรับประทานอาหารที่มีดีเอชเอด้วยเช่นกัน
2.ดีเอชสำหรับเด็ก (DHA) ช่วยลดการเกิดภูมิแพ้ในเด็กเล็ก
มีข้อมูลพบว่าดีเอชเอสำหรับเด็กมีบทบาทสำคัญในการลดการอักเสบ เด็กที่รับประทานอาหารที่มีดีเอชเอ และผู้หญิงที่รับประทานอาหารที่มีดีเอชเอระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร สามารถลดความเสี่ยงของลูกในการเกิดภูมิแพ้และหอบหืดได้ โดยดีเอชเอมีผลป้องกันการเกิดภูมิแพ้และหอบหืดมากกว่าการรักษา สำหรับเด็กที่เกิดภาวะภูมิแพ้แล้ว การใช้อาหารเสริมดีเอชเออาจช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
3.อาหารที่มี ดีเอชเอสำหรับเด็ก แหล่งอาหาร (DHA) สูงเหมาะสำหรับเด็ก
แหล่งอาหารที่มีดีเอชเอสำหรับเด็ก สูงมากที่สุดจะมีในน้ำนมแม่ดังนั้นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ให้นมบุตรแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีดีเอชเอสูง ได้แก่
1.ปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาสำลี ปลาดุก ปลาสวาย ปลาช่อน ปลากระพงขาว ปลาสลิด ปลาอินทรี ปลาตะเพียน ปลาทู ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน เป็นต้น
2.ไข่แดง โดยไข่แดงปกติจะมี DHA ประมาณ 20-30 มิลลิกรัมต่อฟอง สำหรับไข่ที่ได้จากแม่ไก่ที่เสริมด้วยสารอาหารเสริมดีเอชเอ DHA อาจจะมีปริมาณ DHA สูงถึง 100-200 มิลลิกรัมต่อฟอง โดย ไข่ไก่ที่เสริมด้วยดีเอชเอ สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
3.เมล็ดพืช เช่น เมล็ดเจีย (Chia seeds) และเมล็ดแฟลกซ์ (Flax seeds) วอทนัท (Walnut) มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ชนิดแอลฟา-ไลโนเลอิก (Alpha-linolenic acid) ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นดีเอชเอ DHA ได้เล็กน้อย
4.ผักใบเขียวบางชนิด เช่น ผักโขม กะหล่ำปลี แต่มีดีเอชเอปริมาณที่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับปลาจะให้ปริมาณดีเอชเอมากกว่าหลายเท่า
4.ปริมาณ ดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) ที่เหมาะสมในแต่ละวัย
เด็กที่ได้รับปริมาณดีเอชเอ DHA อย่างเพียงพอเหมาะสม จะทำให้พัฒนาการในด้านต่างๆที่กล่าวไปขั้นต้นได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสม ดังนั้นปริมาณที่แนะนำ เป็นปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563 จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำปริมาณในการได้รับไขมันไม่อิ่มตัว โอเมก้า 3 (ชนิดกรดอีพีเอ EPA และ กรดดีเอชเอ DHA ) ต่อวัน โดยแบ่งตามช่วงอายุได้ดังนี้
- ช่วงอายุ 6 เดือน – 2 ปี ควรได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ประมาณ 10 – 12 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
- ช่วงอายุ 2 – 3 ปี ควรได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ประมาณ 100 – 150 มิลลิกรัมต่อวัน
- ช่วงอายุ 4 – 5 ปี ควรได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ประมาณ 150 – 200 มิลลิกรัมต่อวัน
- ช่วงอายุ 6 – 10 ปี ควรได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ประมาณ 200 – 250 มิลลิกรัมต่อวัน
- ช่วงอายุ 10 – 12 ปี ควรได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ประมาณ 0.25 – 2 กรัมต่อวัน
5. การเลือก ดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดีเอชเอสำหรับเด็กเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อเลือกอาหารเสริมดีเอชเอ DHA แนะนำให้พิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
1.เลือกแหล่งที่มาของสารสกัดดีเอชเอ DHA
– สกัดจากน้ำมันปลา เลือกพิจารณาจากผลิตภัณฑ์ที่มาจากปลา เช่น ปลาแซลมอน หรือปลาทูน่า ซึ่งมักจะมีดีเอชเอ DHA ปริมาณสูง
– สกัดจากสาหร่าย หากต้องการทางเลือกที่ไม่มีปลา พิจารณาจากสาหร่ายที่มีปริมาณดีเอชเอสูง ในกลุ่มของสาหร่ายขนาดเล็ก ก็คือกลุ่มของสาหร่ายไมโครแอลจี เช่น สาหร่ายพันธุ์ชิโซไชเทรียม (Schizochytrium) หรือ Crypthecodinium ถือว่าเป็นแหล่งดีเอชเอ DHA ที่ดี
2.ตรวจสอบเรื่องความบริสุทธิ์และได้รับการรับรองความปลอดภัยในอาหารเสริมดีเอชเอ
– ตรวจสอบว่าอาหารเสริมมีการทดสอบความบริสุทธิ์เพื่อหลีกเลี่ยงสารปนเปื้อนกลุ่มโลหะหนัก
– เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรที่เชื่อถือได้ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย และผลิตจากโรงงานที่ได้มาตราฐานสากล
3.ดูปริมาณสารสำคัญดีเอชเอ DHA
– ตรวจสอบฉลากเพื่อดูปริมาณ DHA ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค โดยเลือกปริมาณดีเอชเอตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละช่วงวัย
4.เลือกรูปแบบของอาหารผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดีเอชเอ และพิจารณาส่วนประกอบอื่นๆในผลิตภัณฑ์ ควรเลือกส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำซ้อนกับผลิตภัณฑ์อื่นที่รับประทานเป็นประจำ
– แบบแคปซูลนิ่ม จะสะดวกในเรื่องของการพกพา ไม่มีกลิ่น รับประทานง่าย
– แบบน้ำมันอาจจะต้องพิจารณาถึงรสชาติ กลิ่น และความเข้มข้นของปริมาณดีเอชเอในผลิตภัณฑ์
– แบบผง ดูส่วนประกอบอื่นๆ และความเข้มข้นของปริมาณดีเอชเอในผลิตภัณฑ์
5.วิธีการเก็บรักษาดีเอชเอสำหรับเด็ก
– เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ทึบแสงเพื่อการเสื่อมสภาพของดีเอชเอ DHA
– ตรวจสอบวันหมดอายุเพื่อความมั่นใจว่าอาหารเสริมยังคงมีคุณภาพดี
6.เมื่อต้องการรับประทานดีเอชเอสำหรับเด็ก
– ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนเริ่มใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารเสริมดีเอชเอเหมาะสมกับความต้องกรและสภาวะสุขภาพของลูก
การเลือกอาหารเสริมดีเอชเอสำหรับเด็ก DHA ที่ดีจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากกรดไขมันนี้ในการส่งเสริมสุขภาพโดยรวมได้
6. 5 อาหารเสริม ดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) ทางเลือกเพื่อสุขภาพสำหรับเด็ก
1.Auswelllife Algal Oil DHA เอดับเบิ้ลยูแอล น้ำมันสาหร่าย ดีเอชเอสำหรับเด็ก
ดีเอชเอสำหรับเด็กชนิดเคี้ยว สารสกัดจากน้ำมันจากสาหร่ายพันธุ์ชิโชไซเทรียม นำมาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ประกอบด้วยกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 ได้แก่ อีพีเอ และ ดีเอชเอ จากสาหร่ายทะเลน้ำลึก รสส้ม และผ่านการตรวจสอบปริมาณสารปรอทและตะกั่ว
1 แคปซูล ประกอบด้วย
น้ำมันสกัดจากสาหร่ายพันธุ์ชิโชไซเทรียม 350 มิลลิกรัม ให้ดีเอชเอ DHA 140 มิลลิกรัมและอีพีเอ 70 มิลลิกรัม เหมาะกับเด็ก ผู้ใหญ่ที่ต้องการบำรุงสมองเละระบบประสาท
วิธีรับประทาน
สำหรับเด็กเล็กอายุ 3 เดือน ถึง 4 ขวบ รับประทาน 1 แคปซูล ทุกวันก่อนอาหารเช้า
สำหรับเด็กเล็กอายุ 4 ปี รับประทาน 2 แคปซูล ทุกวันก่อนอาหารเช้า
สตรีมีครรภ์และวัยผู้ใหญ่รับประทาน 3- 4 แคปซูล ทุกวันก่อนอาหารเช้า
สำหรับเด็กแนะนำบิดผสมอาหารหรือนมหรือน้ำผลไม้ให้ลูกรับประทานได้ กลิ่นไม่เหม็นคาว รสชาติเป็นรสส้มแนะนำให้เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนเพื่อป้องกันการติดคอ
เลขทะเบียนจดแจ้ง อาหารและยา 10-3-16261-5-0031
2.Toby Bio Oil DHA โทบี้ ไบโอ ออย ดีเอชเอสหรับเด็ก สารสกัดจากน้ำมันทูน่า
ดีเอชเอสำหรับเด็ก บำรุงระบบประสาท และสมอง เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็กสารสกัดจากน้ำมันปลาทูน่าเข้มข้น ในรูปแบบเม็ดรูปปลาน้อย รับประทานเสริมได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่
1 แคปซูล ประกอบด้วย
น้ำมันทูน่า 490 มิลลิกรัม ให้ดีเอชเอ DHA และอีพีเอ EPA ร้อยละ 6
วิตามินอี 9.94 มิลลิกรัม
วิตามินดี3 0.06 มิลลิกรัม
วิธีรับประทาน
อายุต่ำกว่า 5 ปี รับประทานวันละ 1 แคปซูล
อายุ 5 ปีขึ้นไป รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล
สำหรับเด็กแนะนำบิดผสมอาหารหรือนมหรือน้ำผลไม้ให้ลูกรับประทานได้ หรือเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ไม่คาว ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น รับประทานพร้อมอาหารหรือก่อนนอน
เลขทะเบียนจดแจ้ง อาหารและยา 70-18565-5-0023
3.Promom DHA Probio 9+ โปรมัม ดีเอชเอสำหรับเด็ก โปรไบโอ ไนน์พลัส
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก ช่วยเสริมสร้างสมองส่วนแรกให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เสริมการเรียนรู้และความจำ ด้วยดีเอชเอ DHA สกัดจากธรรมชาติ ควบคู่ไปกับการเสริมการทำงานลำไส้ด้วยโปรไบโอติกส์ Probiotics 5 สายพันธุ์ที่สนับสนุนการทำงานของสมองโดยเฉพาะ (Brian-Biotics) และมีกรดอะมิโน SunTheanine ช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับสนิทอย่างมีคุณภาพ เสริมสมาธิสูงสุดเพื่อการเรียนรู้ของลูกน้อย ให้ลูกน้อยเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ
DHA Probio 9+ เหมาะสำหรับ
- เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป
- พัฒนาทักษะด้านความจำ เสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และสมาธิ
- สำหรับเด็กที่นอนหลับยาก หรือตื่นกลางดึกบ่อย
1 ซอง ประกอบด้วย
- DHA จากธรรมชาติ ปราศจากโลหะหนักตกค้าง เสริมสร้างการพัฒนาระบบประสาทและสมอง เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้และความจำ
- เพิ่มปริมาณ Brain-Biotics จุลินทรีย์ชนิดดีที่ทำงานเชื่อมโยงระหว่างลำไส้และสมอง ผลิตสารสื่อประสาทเพื่อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ และความจำโดยเฉพาะ
- Suntheanine กรดอะมิโนสกัดจากธรรมชาติ ช่วยให้ลูกน้อยหลับลึก ลดการตื่นกลางดึก นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ และช่วยเพิ่มคลื่นสมอง Alpha-wave เสริมสร้างสมาธิสูงสุดเพื่อการเรียนรู้ของลูกน้อย
- ธาตุเหล็กเทคโนโลยี SunActive® ลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ 100% เสริมสร้างการพัฒนาระบบประสาทและสมอง รวมถึงพัฒนา IQ ให้เต็มศักยภาพ
- GOS พรีไบโอติกส์ เพื่อช่วยให้โปรไบโอติกส์เจริญเติบโตและพัฒนาสมองได้อย่างเต็มที่
วิธีรับประทาน
รูปแบบเจลลี่ รับประทานวันละ 1 ซอง (18 กรัม) สามารถฉีกซองรับประทานได้ทันที
เลขทะเบียนจดแจ้ง อาหารและยา 73-1-11365-5-0114
4.NBL DHA Algae Oil from Algae Oil เอ็นบีแอล ดีเอชเอสำหรับเด็ก
ดีเอชเอจากสาหร่ายสูตรเข้มข้นจากพันธุ์ชิโชไซเทรียม ขนาดเม็ดเล็กรูปปลา รับประทานง่ายไม่คาว กลิ่นเลม่อน มาตราฐานการผลิตจากประเทศออสเตรเลีย เสริมสร้างสมาธิ ช่วยบำรุงสมอง
1 แคปซูลประกอบด้วย
น้ำมันสกัดจากสาหร่าย 470 มิลลิกรัม
ให้ปริมาณดีเอชเอ DHA 188 มิลลิกรัม และปริมาณอีพีเอ EPA 94 มิลลิกรัม
วิธีรับประทาน
สำหรับเด็กเล็กอายุ 4 สัปดาห์ ถึง 1 ขวบ รับประทาน 1 แคปซูล ทุกวันก่อนอาหารเช้า
สำหรับเด็กเล็กอายุ 7 ปี ถึง 12 ปี รับประทาน 2 แคปซูล ทุกวันก่อนอาหารเช้า
สตรีมีครรภ์และวัยผู้ใหญ่รับประทาน 2- 3 แคปซูล ทุกวันก่อนอาหารเช้า
เลขทะเบียนจดแจ้ง อาหารและยา 10-3-36959-5-0112
5.Mamarine DHA 2 go มามารีน ดีเอชเอ ทูโก ดีเอชเอสำหรับเด็ก
ดีเอชเอสำหรับเด็กชนิดผง รสส้ม อร่อย ทานง่าย ไม่คาว สามารถผสมน้ำ น้ำผลไม้ นม ทำให้ทานง่ายมากขึ้น หากแพ้ปลาและถั่วเหลือง สามารถทานได้ ทานวันละ 1-2 ซอง เหมาะสำหรับเสริมพัฒนาการทางสมอง ลดความอ่อนล้าของสมอง บำรุงระบบประสาท สมอง และสายตา ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันและลดอาการของโรคสมาธิสั้น (ADHD) เพิ่มการควบคุมอารมณ์ ลดอาการไฮเปอร์ของเด็กและวัยรุ่นที่เป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD) ได้
1 ซอง ประกอบด้วย
ดีเอชเอจากผงสาหร่าย 150 มิลลิกรัม
ฟอลิฟาติดิล เซอรีน 50 มิลลิกรัม
แอสคอร์บิก แอซิด (วิตามินซี) 30 มิลลิกรัม
ไพริด็อกซิน ไฮดดรคลอไรด์(วิตามินบี 6) 1 มิลลิกรัม
ไทอะมีน โมโนไนไตรด(วิตามินบี 1) 0.75 มิลลิกรัม
วิตามินบี 12 0.001 มิลลิกรัม
วิธีรับประทาน
1 ซอง ผสมกับน้ำหรือเครื่องดี่ม 150 มิลลิลิตร รับประทานวันละ 2 ซอง
เลขทะเบียนจดแจ้ง อาหารและยา 73-1-00154-5-0140
บทสรุป
การได้รับดีเอชเอสำหรับเด็ก DHA (Docosahexaenoic Acid) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาสมองและสายตาของเด็ก โดยเฉพาะในช่วงปีแรกของชีวิต เห็นได้ว่าดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) มีบทบาทในการส่งเสริมการทำงานของเซลล์ประสาทและการสร้างความสามารถในการเรียนรู้ ในงานวิจัยหลายฉบับพบว่าการบริโภคดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) อย่างเพียงพอสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ ความจำ และทักษะทางสังคม ดังนั้นการเลือกอาหารที่มีดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) สูง หรือการรับประทานอาหารเสริมที่มีดีเอช (DHA) จึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่อาจจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อสนับสนุนพัฒนาการสำหรับลูกรัก
และถึงแม้ว่าจะมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับ ดีเอชเอสำหรับเด็ก (DHA) แต่ก่อนที่จะเริ่มรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ ฝากติดตามบทความอื่นใน Bhaewow.com ด้วยนะคะ
อ้างอิง
- Health benefits of docosahexaenoic acid and its bioavailability: A review https://bit.ly/4cdBN1l
- Role of omega-3 fatty acids and their metabolites in asthma and allergic diseases https://bit.ly/3A9vRcu
- ชัวร์ก่อนแชร์ : 10 อันดับปลาไทยที่มีโอเมก้า 3 สูง จริงหรือ? https://www.youtube.com/watch?v=y8_8Z6tdM-0
- ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563 จากกรมอนามัย https://www.thaidietetics.org/wp-content/uploads/2020/04/dri2563.pdf
เภสัชกรอิสรีย์นะคะ จบจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาแบ่งปันความรู้ด้านสุขภาพและอาหารเสริม หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ติดต่องาน : LINE @Bhaewow
E-mail : bhaewow@gmail.com
ติดตามเราได้ที่ : Youtube Bhaewow