Thursday, 16 January 2025

โปรไบโอติกลดสิว เรื้อรังยี่ห้อไหนดี

โปรไบโอติกลดสิว ในปัจจุบันโปรไบโอติกไม่ได้เป็นเพียงจุลินทรีย์ที่ช่วยในระบบย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพผิวและการจัดการกับปัญหาสิวที่หลายคนกำลังเผชิญ การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดได้เผยให้เห็นความเชื่อมโยงอันน่าทึ่งระหว่างสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกายกับสภาพผิวของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบคุมการเกิดสิว

จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของเรามีความสัมพันธ์โดยตรงกับการอักเสบทั่วร่างกาย รวมถึงผิวหนัง ผ่านแกนเชื่อมโยงระหว่างลำไส้และผิวหนัง (gut-skin axis) เมื่อสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้เสียไป อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังและกระตุ้นการผลิตน้ำมันมากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว การเสริมโปรไบโอติกจึงอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกลไกการทำงานของโปรไบโอติกต่อการลดสิว พร้อมทั้งค้นหาคำตอบว่าเหตุใดการดูแลสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกายจึงอาจเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาสิวที่หลายคนมองข้าม

สารบัญบทความ  

โปรไบโอติกลดสิว โปรไบโอติกคืออะไร    

ทำความรู้จักกับสิวเรื้อรังคืออะไร

ความเชื่อมโยงระหว่างโปรไบโอติกกับสิวเรื้อรัง

การเลือก โปรไบโอติกลดสิว ที่เหมาะสมสำหรับปัญหาสิวเรื้อรัง

วิธีการรับประทาน โปรไบโอติกลดสิว ให้ได้ผล 

การเสริมสร้างสุขภาพลำไส้เพื่อลดสิวร่วมกับ โปรไบโอติกลดสิว

บทส่งท้าย

โปรไบโอติกลดสิว โปรไบโอติกคืออะไร 

โปรไบโอติกคือจุลินทรีย์ที่มีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะสุขภาพลำไส้ สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอาหารที่เรารับประทาน เช่น กิมจิ เทมเป้ นัตโตะ โยเกริต เป็นต้น โดยโปรไบโอติกเป็นจุลินทรีย์ที่ดีจะช่วยส่งเสริมการย่อยอาหาร การผลิตสารสื่อประสาทและวิตามินบางชนิด โปรไบโอติกมักเป็นกลุ่มของแบคทีเรียและยีสต์ ตระกูลของโปรไบโอติกที่เป็นแบคทีเรีย ที่เป็นที่รู้จักและมักใช้กันจะได้แก่ โปรไบโอติกตระกูลแลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) และบิฟิโดแบคทรีเรียม (ฺBifidobacterium) ส่วนโปรไบโอติกที่เป็นยีส ได้แก่ แซกคาโรไมซีส เบาลาร์ดดิ (Sacharomyces boulardii) โปรไบโอติกมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายหลายด้าน เช่น ระบบผิวหนัง สุขภาพลำไส้ สุขภาพจิต ภาวะภูมิแพ้ เป็นต้น [1]

ทำความรู้จักกับสิวเรื้อรังคืออะไร

สิว เกิดจากปัญหาผิวที่ต่อมไขมันที่เชื่อมกับรูขุมขน ผลิตน้ำมันออกมาที่ผิวหนังชั้นนอกเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แล้วน้ำมันไม่สามารถออกมาจากรูขุมขนได้เนื่องจากเส้นขน น้ำมัน และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเข้าไปเกาะกันอุดตันอยู่ในรูขุมขน ทำให้น้ำมันที่ต่อมไขมันไม่สามารถออกมาจากรูขุมขน และเซลล์ผิวไม่สามารถผลัดเซลล์ผิวหนังได้ ส่งผลให้แบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังเกิดการอักเสบ บวม แดง เป็นสิวได้ คนส่วนใหญ่จะหายเมื่ออายุ 30 แต่บางคนเมื่ออายุ 40 หรือ 50 ก็ยังมีอาการอยู่ สิวมีหลายประเภท ได้แก่ สิวหัวขาว สิวหัวดำ ตุ่มหนอง ตุ่มหนองหรือสิว สิวหัวหนองรุนแรงหรือสิวซีสต์

สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวเรื้อรัง นักวิจัยเชื่อว่าสิวเรื้อรังฝอาจเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งหรือหลายสาเหตุประกอบกัน เช่น การผลิตน้ำมันมากเกินไป การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วในรูขุมขน การเจริญเติบโตของแบคทีเรียในรูขุมขน เป็นต้น โดยมีปัจจัยที่ส่งผลให้เพิ่มโอกาสในการเกิดสิวมากยิ่งขึ้น จากความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ประวัติครอบครัว และยาบางชนิด นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิตเช่น การรับประทานอาหาร ความเครียด มลภาวะ ยังมีส่วนที่ทำให้สิวแย่ลงอีกด้วย [2]

โปรไบโอติกลดสิว ทำไมถึงเป็นสิว วิธีรักษาสิว ทำยังไงให้สิวหาย

ความเชื่อมโยงระหว่างโปรไบโอติกกับสิวเรื้อรัง 

1.ความเชื่อมโยงระหว่างอาหารกับสิว

ถึงแม้ว่าสาเหตุของสิวสามารถเกิดได้จากปัจจัยหลายประการ แต่มีการศึกษาพบว่าอาหารที่มีค่าดัชนี้น้ำตาลสูงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิว โดยกระตุ้นให้เกิดการผลิตอินซูอินและอินซูลินไลค์โกรทแฟกเตอร์ (IGF-1) ส่งผลให้ส่งเสริมการแบ่งตัวของเซลล์ไขมัน เคอราติโนไซต์(เซลล์ผิวหนังชั้นนอก) และกระตุ้นการสังเคราะห์ไขมันในต่อมไขมัน และมีการศึกษาพบว่าจุลินทรีย์ในลำไส้สามารถกระตุ้นอินซูลินไลค์โกรทแฟกเตอร์ (IGF-1) ได้เช่นกัน และพบว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างโรคผิวหนังกับจุลินทรีย์ในลำไส้ที่ไม่สมดุล จึงเชื่อว่าการปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้จะส่งผลต่อสุขภาพผิว[3] อ่านโปรไบโอติกกับซึมเศร้า ที่นี่

2.การควบคุมการอักเสบ

โปรไบโอติกช่วยลดการอักเสบทั่วร่างกายผ่านการปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะการลดการผลิตไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ (pro-inflammatory cytokines) เช่น IL-1, IL-8, TNF-α [4] [8]ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นการเกิดสิว [5]

3.การควบคุมฮอร์โมน

จุลินทรีย์ในลำไส้มีผลต่อการเผาผลาญฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง การมีสมดุลของจุลินทรีย์ที่ดีจะช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนเหล่านี้ [6]

4.การดูดซึมสารอาหาร

โปรไบโอติกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพผิว เช่น วิตามิน A, D, E และสังกะสี ซึ่งมีความสำคัญในการซ่อมแซมผิวและควบคุมการผลิตน้ำมัน [7]

5.การต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย C. acnes

โปรไบโอติกบางสายพันธุ์ผลิตสารต้านจุลชีพที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ C. acnes (Cutibacterium acnes) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว [3]

6.การเสริมสร้างผนังลำไส้

โปรไบโอติกช่วยเสริมความแข็งแรงของผนังลำไส้ ลดภาวะลำไส้รั่ว (Leaky Gut) ซึ่งเป็นสาเหตุของการอักเสบทั่วร่างกายและส่งผลต่อการเกิดสิว [3] [8]

การเลือก โปรไบโอติกลดสิว ที่เหมาะสมสำหรับปัญหาสิวเรื้อรัง

1.เลือกสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพ

พบว่าการใช้โปรไบโอติกทำให้ระยะเวลาการรักษาสิวแบบดั้งเดิมลดลง  โปรไบโอติกแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะเฉพาะ จากการศึกษาพบว่าตระกูลของโปรไบโอติกที่ช่วยลดสิว เช่น Lactobacillus และ Bifidobacterium 

2.ปริมาณจุลินทรีย์ที่มีชีวิต (CFU)

ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี CFU อย่างน้อย 10-20 พันล้านตัวต่อการรับประทาน 1 ครั้งและตรวจสอบวันหมดอายุและการเก็บรักษาเพื่อให้แน่ใจว่าจุลินทรีย์ยังมีชีวิต

3.ส่วนประกอบเสริม

  • พรีไบโอติก เพื่อเป็นอาหารให้จุลินทรีย์ ส่งเสริมให้โปรไบโอติกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น 
  • วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงผิว เช่น สังกะสี วิตามินดี

4. รูปแบบผลิตภัณฑ์

  • แคปซูลที่มีเทคโนโลยีปกป้องจุลินทรีย์จากกรดในกระเพาะ
  • ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องแช่เย็น สะดวกต่อการพกพา
  • ขนาดแคปซูลที่กลืนง่ายหรือแบบผงชงดื่ม

วิธีการรับประทาน โปรไบโอติกลดสิว ให้ได้ผล 

  1. ควรรับประทานตอนท้องว่าง ช่วงเช้าก่อนอาหาร 30 นาที หรือก่อนนอนหลังรับประทานอาหารมื้อสุดท้าย 2-3 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการรับประทานพร้อมอาหารร้อนหรือเครื่องดื่มร้อน
  2. เริ่มจากขนาดต่ำก่อน เช่น 5-10 พันล้าน CFU ต่อวัน และค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 15-20 พันล้าน CFU หลังจากรับประทานไป 1-2 สัปดาห์
  3. รับประทานอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 8-12 สัปดาห์เพื่อเห็นผลที่ชัดเจน
  4. ดื่มน้ำตามมากๆ หลีกเลี่ยงการรับประทานร่วมกับยาปฏิชีวนะและเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น

ข้อควรระวัง 

  • แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้หากมีโรคประจำตัว
  • แจ้งแพทย์หากใช้ยารักษาสิวอื่นๆ ร่วมด้วย 
  • หยุดใช้ทันทีหากมีอาการแพ้หรือผิดปกติ 
  • ไม่ควรรับประทานเกินขนาดที่แนะนำ
  • คนที่มีโรคประจำตัว ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลไม่ควรรับประทาน
  • เลือกซื้อจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและได้มาตรฐาน

การเสริมสร้างสุขภาพลำไส้เพื่อลดสิวร่วมกับ โปรไบโอติกลดสิว

ถึงแม้ว่าการเกิดสิวจะสามารถเกิดได้หลายสาเหตุ และการรักษาด้วยยาจะมีประสิทธิผลที่เห็นได้ชัด แต่การศึกษาพบว่าการรักษาสิวร่วมกับการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารโดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและวิตามินเสริมอาหารอาจจะช่วยทำให้สิวดีขึ้น โดยมีการศึกษาพบว่ากลุ่มจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในร่างกายมีบทบาทสำคัญทั้งในลำไส้และบนผิวหนัง และพบว่าการบริโภคนมและอาหารที่มีน้ำตาลสูงมีความสัมพันธ์กับการผลิตน้ำมันบนผิวเพิ่มมากขึ้น มีการศึกษาพบว่าผู้ที่บริโภคผักและปลาเป็นสิวน้อยกว่าผู้ที่บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว ชีสแปรรูป [3] ดังนั้นการรักษาสิวด้วยยาร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพื่อส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ทำให้การรักษาสิวเป็นไปในทิศทางที่ดีในระยะยาว 

บทส่งท้าย

จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และงานวิจัยที่นำเสนอในบทความนี้ แสดงให้เห็นว่าโปรไบโอติกไม่เพียงมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพผิวและการจัดการกับปัญหาสิว การเสริมโปรไบโอติกอย่างเหมาะสมร่วมกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีจัดการกับปัญหาสิวอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม พึงระลึกไว้ว่าการตอบสนองต่อโปรไบโอติกของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน และอาจต้องใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์เสริมโปรไบโอติกจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในกรณีที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยารักษาสิวอื่นๆ อยู่

การดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอกผ่านการสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณก้าวข้ามปัญหาสิวและมีผิวสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ในอนาคตอันใกล้ เราอาจได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้โปรไบโอติกเพื่อการดูแลผิว ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกในการดูแลสุขภาพผิวให้กับผู้ที่กำลังต่อสู้กับปัญหาสิวได้มากยิ่งขึ้น

โปรไบโอติกส์กับตกขาว Bomi 16.8 balance probiotics

sponsored shopee sponsored Lazada

โปรไบโอติกส์กับตกขาว Lacto-IN10 โพรไบโอติกแบบซองกรอกปาก

sponsored shopee sponsored Lazada

อ้างอิง

  1. Probiotics usefulness and safety
  2. Acne NIH
  3. The impact of consuming probiotics and following a vegetarian diet on the outcomes of acne
  4. The anti-inflammatory and curative exponent of probiotics: A comprehensive and authentic ingredient for the sustained functioning of major human organs
  5. A review of skin immune processes in acne
  6. The gut microbiota is a major regulator of androgen metabolism in intestinal contents
  7. Probiotics or Pro-healers the role of beneficial bacteria in tissue repair
  8. Probiotics for acne and skin health
Disclaimer

เราจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยาสมุนไพร ฯลฯ อย่างไรก็ตามเนื้อหาในเว็บไซด์ แห่งนี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หรือใช้แทนคำการวินิจฉัย การรักษาทางการแพทย์แต่อย่างไร หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบายควรปรึกษาแพทย์ที่สถานพยาบาลเท่านั้น