การขาดธาตุเหล็กส่งผลต่อพัฒนาการของลูก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องพิจารณา อาหารเสริมธาตุเหล็ก ให้กับลูกรัก ซึ่งการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกจะทำให้ลูกได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ ส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการของเด็ก การให้ความสำคัญกับการได้รับธาตุเหล็กทั้งจากอาหารและอาหารเสริมจะช่วยให้เด็กเติบโตอย่างแข็งแรงและมีพัฒนาการที่สมบูรณ์
สารบัญบทความ
อาหารเสริมธาตุเหล็ก สำหรับเด็กมีกี่ชนิด ควรเลือกอย่างไร
วิธีการเลือก อาหารเสริมธาตุเหล็ก ที่เหมาะสมกับลูก
อาการข้างเคียงของการรับประทาน อาหารเสริมธาตุเหล็ก
อาหารเสริมธาตุเหล็ก มีปฏิกิริยากับยาอื่นหรือไม่
การรับประทาน อาหารเสริมธาตุเหล็ก ควรทานตอนไหน
อาหารเสริมธาตุเหล็ก ควรได้รับนานเท่าไร
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ อาหารเสริมธาตุเหล็ก ในเด็ก
รีวิว 4 อาหารเสริมธาตุเหล็ก
อาหารเสริมธาตุเหล็กสำหรับเด็กมีกี่ชนิด ควรเลือกอย่างไร
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กสำหรับเด็กมีหลายชนิด ตัวอย่างรูปแบบธาตุเหล็กที่พบได้บ่อย เช่น
1.เหล็กโพลีแซคคาไรด์ (Iron Polysaccharide Complex) มีการดูดซึมดีและมักไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียง เหมาะสำหรับเด็กและผู้ที่มีปัญหาต่อผลิตภัณฑ์เหล็กชนิดอื่น
2.เหล็กอะมิโนแอซิดคีเลต (Iron amino acid chelate) เป็นธาตุเหล็กที่อยู่ในรูปของโมเลกุลที่เล็กมากและห่อหุ้มด้วยโปรตีนในรูปของกรดอะมิโน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ง่ายเสมือนการดูดซึมโปรตีน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการย่อยหรือดูดซึมธาตุเหล็ก
3.เหล็กฟูมาเรต (Ferrous Fumarate) มีปริมาณธาตุเหล็กสูงและถูกดูดซึมได้ดี ในบางคนอาจมีอาการระคายเคืองกระเพาะอาหารแต่น้อยกว่าเหล็กซัลเฟต
4.เหล็กซัลเฟต (Ferrous Sulfate) เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุด มีราคาถูก มีประสิทธิภาพในการดูดซึมสูง บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการท้องผูกหรือปวดท้อง
5.เหล็กกลูโคเนต (Ferrous Gluconate) ดูดซึมได้ดีและมักทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า แต่มีปริมาณธาตุเหล็กต่อหน่วยน้อยกว่าเหล็กฟูมาเรตและซัลเฟต
6.เหล็กไบสไกลซิเนต (Iron Bisglycinate) มีการดูดซึมดีและไม่ค่อยรบกวนระบบทางเดินอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ท้องหรือท้องผูกจากผลิตภัณฑ์เหล็กชนิดอื่น
7.เฟอริคไพโรฟอสเฟต (Ferric Pyrophosphate) มักใช้ในการเสริมอาหารเนื่องจากไม่เปลี่ยนสีหรือรสชาติของอาหาร การดูดซึมอาจต่ำกว่าชนิดอื่น
การเลือกชนิดของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กควรพิจารณาจากความเหมาะสมกับอายุ น้ำหนัก และสภาพสุขภาพของเด็ก โดยคำนวณปริมาณเหล็กที่ควรได้รับจากปริมาณธาตุเหล็กของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ประสิทธิภาพการดูดซึม ผลข้างเคียง จะขึ้นกับแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเลือกใช้เสริมอาหารธาตุเหล็กชนิดใดๆ
วิธีการเลือก อาหารเสริมธาตุเหล็ก ที่เหมาะสมกับลูก
ในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ให้เลือกพิจารณาความเหมาะสมจาก
1.อายุและน้ำหนัก ปริมาณธาตุเหล็กที่ลูกต้องการขึ้นอยู่กับอายุและน้ำหนัก ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณธาตุเหล็กเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์
2.รูปแบบที่เหมาะสม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กมีหลายรูปแบบ เช่น ยาน้ำ ยาเม็ด และแบบผง เลือกรูปแบบที่ลูกสามารถรับประทานได้ง่าย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่น
3.ความปลอดภัย เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ปราศจากสารเติมแต่งที่ไม่จำเป็น พิจารณาส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ว่ามีส่วนประกอบที่ลูกไม่สามารถรับประทานได้หรือไม่ หรือมีวิตามินที่ซ้ำซ้อนกับวิตามินตัวอื่นที่ลูกรับประทานอยู่หรือไม่
4.รีวิวและคำแนะนำ ค้นหาข้อมูลจากรีวิว พร้อมกับปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
อาการข้างเคียงของการรับประทาน อาหารเสริมธาตุเหล็ก
เนื่องจากการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กอาจทำให้มีอาการเหล่านี้ได้ หากมีมากจนรบกวนคุณภาพชีวิตแนะนำให้แจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อหาสาเหตุและพิจารณาเปลี่ยนรูปแบบหรือชนิดของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
1.ท้องผูก เป็นอาการข้างเคียงที่พบบ่อย แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง
2.คลื่นไส้และอาเจียน หากเกิดอาการนี้ ควรให้ลูกรับประทานพร้อมอาหารหรือทานหลังอาหารทันทีเพื่อช่วยลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร
3.อุจจาระสีดำ เป็นอาการปกติที่ไม่เป็นอันตราย แต่หากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยควรปรึกษาแพทย์
4.การระคายเคืองในกระเพาะอาหาร หากเกิดการระคายเคืองมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนขนาดยา หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีผลข้างเคียงต่ำกว่า
อาหารเสริมธาตุเหล็กมีปฏิกิริยากับยาอื่นหรือไม่
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กสามารถมีปฏิกิริยากับยาและสารอาหารอื่นๆ ได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของทั้งธาตุเหล็กและยาหรือสารอาหารนั้นๆ เช่น
1.ยาบางชนิดที่ใช้ในการรักษาโรคกระเพาะอาหาร เช่น ยาลดกรด อาจลดการดูดซึมธาตุเหล็ก ควรรับประทานห่างจากยาลดกรดอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
2.ยาปฏิชีวนะกลุ่มเตตราไซคลีนและควิโนโลน ยากลุ่มนี้อาจมีปฏิกิริยาทำให้ประสิทธิภาพของยาและธาตุเหล็กลดลง ควรรับประทานธาตุเหล็กห่างจากยากลุ่มนี้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
3.แคลเซียม ซิงค์ แมกนีเซียม และธาตุเหล็กอาจรบกวนการดูดซึมซึ่งกันและกัน ควรรับประทานห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
4.วิตามินอี ธาตุเหล็กอาจทำลายวิตามินอี ในระบบทางเดินอาหาร ควรรับประทานห่างกัน
นอกจากนี้ยังมียารักษาโรคต่างๆที่สามารถเกิดปฏิกริยาระหว่างยาได้ เช่น ยารักษาไทรอยด์ ยาลีโวโดปาใช้ในการรักษาโรคพาร์กินสัน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด จึงควรระวังแนะนำให้แจ้งแพทย์ทุกครั้งหากรับประทานอาหารเสริมหรือยาใดอยู่
การรับประทาน อาหารเสริมธาตุเหล็ก ควรทานตอนไหน
1.ก่อนอาหารหรือหลังอาหาร ธาตุเหล็กมักดูดซึมได้ดีที่สุดเมื่อรับประทานขณะท้องว่าง ดังนั้นการให้ก่อนอาหารประมาณ 1 ชั่วโมงหรือหลังอาหารประมาณ 2 ชั่วโมงจะช่วยเพิ่มการดูดซึม
2.พร้อมอาหาร หากลูกมีอาการคลื่นไส้หรือระคายเคืองกระเพาะ ควรให้รับประทานพร้อมอาหารเพื่อลดอาการเหล่านี้
3.ร่วมกับวิตามินซี การรับประทานธาตุเหล็กร่วมกับอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีสูง เช่น น้ำส้ม จะช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก
อาหารเสริมธาตุเหล็กควรได้รับนานเท่าไร
ระยะเวลาในการให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กขึ้นอยู่กับระดับธาตุเหล็กในเลือดของลูกและความจำเป็นในการเสริม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ควรตรวจเลือดเพื่อติดตามระดับธาตุเหล็กในร่างกาย และปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนปริมาณหรือหยุดให้เมื่อไม่จำเป็น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กหรืออาหารเสริมธาตุเหล็ก ในเด็ก
1.อาหารเสริมธาตุเหล็กชนิดไหนดีที่สุดสำหรับเด็ก?
ตอบ ควรเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กที่เหมาะสมกับอายุของเด็ก และปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
2.ควรให้เด็กทานอาหารเสริมธาตุเหล็กวันละเท่าไหร่?
ตอบ ปริมาณที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับอายุและน้ำหนักของเด็ก ควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ดูปริมาณธาตุเหล็กที่เด็กแต่ละช่วงวัยควรได้รับ
3.ผลข้างเคียงของการทานอาหารเสริมธาตุเหล็กคืออะไร?
ตอบ ผลข้างเคียงหรืออาการข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ ท้องผูก คลื่นไส้ อาเจียน และอุจจาระมีสีดำ
4.การทานวิตามินซีร่วมกับธาตุเหล็กมีประโยชน์อย่างไร?
ตอบ วิตามินซีช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น ดังนั้นสามารถรับประทานร่วมกับอาหารที่มีวิตามินซีสูงได้ เช่น ส้ม ฝรั่ง ผลไม้ตระกูลเบอรี่ เป็นต้น การรับประทานวิตามินซีเสริมควบคู่ไปด้วย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการดูดซึมธาตุเหล็ก
5.หากเด็กแพ้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กจะทำอย่างไร?
ตอบ หากเด็กมีอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน หายใจลำบาก หรือบวม ควรหยุดให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทันที และปรึกษาแพทย์
6.ควรให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กกับเด็กนานเท่าไหร่?
ตอบ ควรให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กตามที่แพทย์แนะนำ และควรตรวจเลือดเป็นระยะเพื่อประเมินระดับธาตุเหล็กในร่างกาย
รีวิว 4 อาหารเสริมธาตุเหล็ก
1.Master Rabbit Iron with Folic plus Vit D
มาสเตอร์แรบบิทไอรอน วิท โฟลิค พลัส วิตดี เป็นผลิตภัณฑ์ธาตุเหล็กที่มีส่วนผสมของโฟลิคและวิตามินดี วิตามินเสริมธาตุเหล็กสำหรับเด็กวัยเจริญเติบโต
ส่วนประกอบ
ผงดินิเมอไรซ์เวย์โปรตีน Demineralized Whey Powder 200 มิลลิกรัม
ไอรอน อะมิโน แอซิต คีเลต (Iron amino acid chelate 20%) 50 มิลลิกรัม
กรดแอสคอร์บิกหรือวิตามินซี (Vitamin C 100%) 35.4 มิลลิกรัม
ซิงก์อมิโนแอซิดคีเลต (Zinc Amino Acid Chelate 20%) 20 มิลลิกรัม
ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructooligosaccharide 95%) 10 มิลลิกรัม
ไซยาโนโคบาลามินหรือวิตามิน บี12 ( Vitamin B12 0.1%) 2 มิลลิกรัม
วิตามินดี (Vitamin D 100000 IU) 2 มิลลิกรัม
ไพริดอกซีน ไฮโดรคลอไรด์หรือวิตามิน บี6 (Vitamin B6 100%) 2 มิลลิกรัม
กรดโฟลิก (Folic Acid 100%) 0.1 มิลลิกรัม
เป็นสูตรที่เป็นโปรตีนคุณภาพสูงที่ให้กรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายต้องการครบทั้ง 8 ชนิด ร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว จึงเหมาะกับลูกที่กำลังเติบโตและต้องสร้างกล้ามเนื้อใหม่ๆตลอดเวลา ใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลทำให้ลูกรับประทานได้ง่ายขึ้น ซิงค์ (Zinc) หรือสังกะสีในสูตรเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ เพราะมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันเป็นอย่างมาก ซึ่งในสูตรนี้ใช้ซิงค์และธาตุเหล็ก ในรูปแบบ อะมิโน แอซิด คีเลต (Amino acid chelate) จะถูกห่อหุ้มด้วยโปรตีนในรูปของกรดอะมิโน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ง่ายเสมือนการดูดซึมโปรตีนและลดการรบกวนการดูดซึมซึ่งกันและกัน วิตามินดีจะช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายและกระดูก ไพริดอกซีน หรือ วิตามินบี 6 เป็นสารอาหารที่สำคัญในการผลิตฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนในเซลล์เม็ดเลือดแดง กรดโฟลิกช่วยในการแบ่งตัวของเซลล์ ซึ่งรวมถึงการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงในไขกระดูก การขาดกรดโฟลิกอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจางได้
วิธีรับประทาน ชงดื่มกับน้ำและเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีปริมาณ 150 ml ขึ้นไป โรยบนอาหารได้หลากหลายชนิด
เลขที่จดแจ้ง 10-1-03958-5-0401
2.MamaSecret Easy Iron Plus
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อีซี่ ไอรอน พลัส วิตามินธาตุเหล็กโคลีน นวัตกรรมญี่ปุ่น ผสมนมได้ ผสมน้ำได้ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ปรุงแต่งรส ไม่ผสมนมผง ไม่ใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาลและวัตถุกันเสีย
ส่วนประกอบ
ไฟเบอร์ (Partially Hydrolyzed Guar Gum 100% (SunFiber®)) 1339.796 มิลลิกรัม
โคลีน (Choline 100% (Cholife®)) 100 มิลลิกรัม
วิตามินซี (Non-Acidic Vitamin C (Vitamin C 84%)) 30 มิลลิกรัม
เหล็กไพโรฟอสเฟต (Ferric Pyrophosphate (SunActive®)) 25 มิลลิกรัม
วิตามินบี 6 (Vitamin B6) 2 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 (Vitamin B2) 1.7 มิลลิกรัม
วิตามินบี 1 (Vitamin B1) 1.5 มิลลิกรัม
วิตามินบี 12( Vitamin B12) 0.2 มิลลิกรัม
เป็นธาตุเหล็กไพโรฟอสเฟต นิยมใช้ในการเสริมอาหารเนื่องจากไม่เปลี่ยนสี กลิ่นและรสชาติของอาหารทำให้รับประทานง่าย เหมาะสำหรับเด็กเล็ก และปริมาณหลังดูดซึมจะได้ธาตุเหล็กประมาณ 4-5 มิลลิกรัม โดยธาตุเหล็กและไฟเบอร์เป็นลิขสิทธิ์ญี่ปุ่น ตัวธาตุเหล็กจะใช้เทคโนโลยีให้การหุ้มทำให้ดูดซึมได้ง่าย ลดอาการข้างเคียงในเรื่องของระคายเคืองกระเพาะอาหารและอาการท้องผูก ไฟเบอร์จัดอยู่ในกลุ่มของพรีไบโอติกเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ โคลีนเป็นลิขสิทธิ์เบลเยี่ยม ตัวโคลีนจะเป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารสื่อประสาท มีส่วนประกอบของวิตามินบี ซึ่งสำคัญต่อเซลล์สมองและสารสื่อประสาท
วิธีรับประทาน ชงดื่มกับน้ำและเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีปริมาณ 150 ml ขึ้นไป โรยบนอาหารได้หลากหลายชนิด
เลขที่จดแจ้ง 13-1-14363-5-0051
3.Heidy Iron and Lysine
ไฮดี้ ธาตุเหล็ก แบบเม็ดเคี้ยวสำหรับเด็กรสสตอรเบอรี่ พกพาสะดวก มีรสหวานเล็กน้อย ทำให้เด็กๆสามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น ไม่มีส่วนผสมของนมวัว ไข่ ถั่ว เกลือ และครีมเทียม ไม่แต่งสีและวัตถุกันเสีย เด็กแพ้นมวัว สามารถทานได้
ส่วนประกอบ
ผงสตรอเบอรี่ (Strawberry powder) 184 มิลลิกรัม
ไลซีน (L-lysine) 31 มิลลิกรัม
วิตามินซี (Vitamin C) 15 มิลลิกรัม
ไนอะซิน (Niacin) 4.8 มิลลิกรัม
เหล็ก (Iron) 3.7 มิลลิกรัม
วิตามิน บี 6 (Vitamin B6) 0.49 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 (Vitamin B2) 0.42 มิลลิกรัม
โฟลิค (Folic acid) 0.049 มิลลิกรัม
ไบโอติน (Biotin) 0.037 มิลลิกรัม
วิตามินดี3 (VitaminD3) 0.008 มิลลิกรัม
วิตามินบี12 (Vitamin B12) 0.0049 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก มีส่วนช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและฮีโมโกลบินตามปกติ แต่ตัวนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นธาตุเหล็กในรูปแบบไหน ไลซีนมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายและช่วยเจริญอาหาร วิตามินบีรวมมีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ส่วนผสมบางส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นและเยอรมัน
วิธีรับประทาน เคี้ยวก่อนกลืน อายุ 2-5 ปี วันละ 1 เม็ด อายุ 6-8 ปี วันละ 1-2 เม็ด อายุ 9 ปีขึ้นไป วันละ 2 เม็ด
เลขที่จดแจ้ง 74-2-01654-5-0102
4.Nutroplex Oligo Plus
นูโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส วิตามินเสริมธาตุเหล็กสำหรับเด็กในรูปแบบน้ำ วิตามินเสริมธาตุเหล็ก สำหรับเด็กในวัยเจริญเติบโต เป็นอาหารเสริมชนิดน้ำ รสส้ม ทำให้รับประทานได้ง่าย เหมาะสำหรับเด็กที่ไม่ชอบทานผักและเนื้อสัตว์ และเสริมธาตุเหล็กในเด็กที่มีภาวะซีดเหลือง เม็ดเลือดไม่สมบูรณ์ มีส่วนผสมของวิตามินและใยอาหารธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
ส่วนประกอบ
โอลิโกฟรุคโตส 250 มิลลิกรัม
แอล-ไลซีน โมโนไฮโดรคลอไรด์ 100 มิลลิกรัม
เฟอร์ริกแอมโมเนียมซิเทรต 35 มิลลิกรัม
ไนอะซินาไมด์ 4 มิลลิกรัม
เคซีน ไฮโดรไลเซท 2.5 มิลลิกรัม
ไทอะมีน ไฮโดรคลอไรด์ 0.5 มิลลิกรัม
วิตามินเอ แพลมิเทต 0.4 มิลลิกรัม
ไรโบฟลาวิน-5’-ฟอสเฟต โซเดียม 0.4 มิลลิกรัม
วิตามินดีสาม 0.05 มิลลิกรัม
ดี-ไบโอติน 0.05 มิลลิกรัม
ไซยาโนโคบาลามิน (วิตามินบี 12) 1 ไมโครกรัม
ธาตุเหล็กนี้เป็นรูปแบบของเกลือเฟอร์ริก อาจจะดูดซึมได้ไม่ดีเท่ารูปแบบเกลือเฟอร์รัส แต่ไม่มีผลต่อปริมาณเหล็กที่จะได้รับเนื่องจากมีปัจจัยที่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลร่วมด้วย มีส่วนผสมของพรีไบโอติกส์เป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในร่างกาย และมีวิตามินรวมบำรุงร่างกาย ตัวนี้ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ทำให้มีรสหวาน และอยู่ในรูปแบบน้ำ ทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้น
วิธีรับประทาน วันละ 1-2 ช้อนชา หรือ 5-10 มล. ต่อวัน
เลขที่จดแจ้ง 73-1-00154-1-0261
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุเหล็กอาจจำเป็นสำหรับบางคน โดยเฉพาะเด็กที่มีความเสี่ยงต่อภาวะขาดธาตุเหล็ก เช่น เด็กที่ไม่ชอบรับประทานผักใบเขียว และเนื้อสัตว์ อย่างไรก็ตาม การรับประทานควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากการได้รับมากเกินไปอาจเป็นเกิดภาวะเหล็กเกิน หากต้องการรับประทาน ควรระวังเรื่องการรับประทานร่วมกับอาหารหรือยาบางชนิดที่อาจรบกวนการดูดซึม เช่น ผลิตภัณฑ์นม หรืออาหารเสริมแคลเซียม นอกจากนี้ ควรสังเกตอาการข้างเคียง เช่น อาการท้องผูกหรือท้องเสีย แนะนำให้รับประทานควบคู่กับอาหารที่มีวิตามินซีเพื่อเพิ่มการดูดซึม สุดท้ายนี้การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงตามธรรมชาติยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการได้รับธาตุเหล็กอย่างสมดุล หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ ฝากติดตามบทความอื่นใน Bhaewow.com ด้วยนะคะ
อ้างอิง
2.Dietary Iron and Iron supplements
3.Medications for Iron deficiency anemia
เภสัชกรอิสรีย์นะคะ จบจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาแบ่งปันความรู้ด้านสุขภาพและอาหารเสริม หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ติดต่องาน : LINE @Bhaewow
E-mail : bhaewow@gmail.com
ติดตามเราได้ที่ : Youtube Bhaewow