คอลลาเจนคืออะไร
คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดที่พบมากในร่างกาย ประกอบด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดต่อกัน มักพบที่ผิวหนัง กระดูก กระดูกอ่อน เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ข้อต่อ ฟัน กระจกตา เส้นเลือด หัวใจ เป็นต้น โดยคอลลาเจนที่พบในร่างกายจะมีประมาณ 16 ประเภท แต่ 80-90 % เป็นคอลลาเจนประเภท 1 ประเภท 2 ประเภท 3 และประเภท 4 (collagen types I ,II ,III และ IV)
คอลลาเจนแต่ละประเภท (collagen type) พบได้ที่ไหนบ้าง
1. คอลลาเจนไทป์หนึ่ง (collagen type 1) พบมากที่สุดในร่างกาย เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กระดูก กระดูกอ่อน เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เส้นเอ็นและฟัน
2. คอลลาเจนไทป์สอง (collagen type 2) พบได้ที่กระดูกอ่อนที่มีความยืดหยุ่น ข้อต่อ หมอนรองกระดูกสันหลัง เอ็นยึดกระดูก
3. คอลลาเจนไทป์สาม (collagen type 3) พบได้ตามกล้ามเนื้อ อวัยวะต่างๆ และหลอดเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
4. คอลลาเจนไทป์สี่ (collagen type 4) พบได้ตามชั้นผิวหนัง
ประโยชน์ของคอลลาเจนมีอะไรบ้าง
1.ทำให้ผิวแข็งแรง เมื่ออายุมากขึ้นจะมีการสร้างคอลลาเจนลดลงทำให้เกิดผิวแห้งและริ้วรอยได้ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง มีประโยชน์ช่วยเพิ่มความหยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดผิวแห้งกร้าน ลดเรื้อนริ้วรอย มีการศึกษาพบว่าคนที่กินคอลลาเจน (collagen hydrolysate) วันละ 2.5-5 กรัมต่อวันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ ทำให้ลดอาการผิวแห้งและเพิ่มความหยืดหยุ่นให้กับผิวได้มากกว่าคนที่ไม่ได้กิน
2.ทำให้อาการปวดข้อดีขึ้น มีการศึกษาในคนที่เป็นข้อเข่าเสื่อมพบว่าการกินคอลลาเจนวันละ 8-12 กรัม สามารถช่วยเพิ่มคอลลาเจนหรือป้องกันการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อมีผลทำให้อาการปวดข้อดีขึ้น
3.ป้องกันการสลายของกระดูก คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหนึ่งของกระดูกและช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง เมื่ออายุมากขึ้นมีการผลิตคอลลาเจนลดลงทำให้มีผลต่อความแข็งแรงของกระดูก มีการศึกษาพบว่าการกินคอลลาเจน 5 กรัมต่อวัน 12 เดือนร่วมกับแคลเซียมจะช่วยลดการเสื่อมสลายของกระดูกและเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก
4.ทำให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจแข็งแรง โดยมีการศึกษาพบว่าการกินคอลลาเจนไตรเปปไทด์ 16 กรัมต่อวัน 6 เดือนช่วยลดความแข็งของหลอดเลือดแดงและลดไขมันไม่ดี (Low-density lipoprotein) ทำให้ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้
วิธีเลือกคอลลาเจน เลือกคอลลาเจนยังไง
1.เลือกคอลลาเจนที่สกัดจากอาหารที่เราไม่แพ้ ซึ่งคอลลาเจนส่วนใหญ่จะสกัดจากปลา กระดูกอ่อนของสัตว์ เป็นต้น
2.เลือกชนิดของคอลลาเจน โดยคอลลาเจนส่วนใหญ่จะมี 3 ชนิด ได้แก่ คอลลาเจนเปปไทด์ (collagen peptide) ขนาดโมเลกุล 2000-5000 ดาลตัน คอลลาเจนแบบไตรเปปไทด์ (collagen tripeptide) ขนาดโมเลกุล 500-1000 ดาลตัน และคอลลาเจนแบบไดเปปไทด์ (collagen dipeptide) ขนาดโมเลกุล 200 ดาลตัน ซึ่งแตกต่างกันโดยคอลลาเจนแบบไดเปปไทด์จะประกอบด้วยกรดอะมิโน 2 ตัวต่อกัน ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดประกอบด้วยกรดอะมิโน 2 ตัวต่อกัน เป็นคอลลาเจนที่ขนาดเล็ก ทำให้ดูดซึมได้ดีกว่าเร็วกว่าและราคาแพงกว่าคอลลาเจนแบบเปปไทด์และคอลลาเจนแบบไตรเปปไทด์
3.เลือกประเภทคอลลาเจน (collagen type) เนื่องจากในปัจจุบันมีงานวิจัยเกี่ยวเนื่องกับการใช้ คอลลาเจนแต่ละไทป์ (collagen type I II III IV) อยู่มาก ดังนั้นถ้าเราจะใช้คอลลาเจนในการบำรุงส่วนไหน ควรเลือกใช้ collagen type ที่เราต้องการเช่น เลือก collagen type II บำรุง ข้อเข่า เอ็นข้อเข่า เป็นต้น
4.เลือกที่มีส่วนผสมของวิตามินซี กรดอะมิโนโปลีน (proline) กรดอะมิโนไกลซีน (glycine) หรือ แร่ธาตุทองแดง (copper) เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้สามารถช่วยทำให้ร่างกายมีการผลิตคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น
5.เลือกปริมาณกรัมหรือมิลลิกรัมของคอลลาเจนต่อหน่วยรับประทาน ให้มีมากพอ โดยขนาดที่แนะนำต่อวันอยู่ประมาณ 2.5 กรัม – 10 กรัม ต่อวัน
6.เลือกที่มีมาตราฐานการผลิต GMP ISO HACCP และมีเลขทะเบียนจดแจ้ง ขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา
เลือกคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี มาดูส่วนประกอบกัน
รีวิวคอลลาเจน 5 ตัวที่น่าสนใจปี 2020 ที่เลือกมาเป็นเพียงการยกตัวอย่าง เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อรับประทานเองนะคะ

วิสทร้าคอลลาเจนไตรเปปไทด์
1.วิสต้า มารีน คอลลาเจน ไตรเปปไทด์ 10000 mg
– ตัวนี้เป็นคอลลาเจนที่มีขายในเซเว่นและร้านขายยา โดย 1 ซองจะประกอบด้วย
มารีน คอลลาเจน ไตรเปปไทด์ 10,000 มิลลิกรัม
กรดอะมิโนแอล-อาร์จินีน 250 มิลลิกรัม
กรดอะมิโนไกลซีน 100 มิลลิกรัม
วิตามินซี 60 มิลลิกรัม
วิตามินอี 20 มิลลิกรัม
-ตัวนี้เป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ก็ดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนเปปไทด์
– มีกรดอะมิโนแอล-อาร์จินีน กรดอะมิโนไกลซีน วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมของคอลลาเจน
– มีเลขอย.10-1-12650-1-0063

ชาเม่ คอลลาเจน พลัส
2.ชาเม่ คอลลาเจน พลัส
1 ซอง จะประกอบด้วย
คอลลาเจนไตรเปปไทด์ 7000 มิลลิกรัม
ไฮโดรไลซด์ มารีน คอลลาเจน 3000 มิลลิกรัม
วิตามินซี 30 มิลลิกรัม
แอล-กลูต้าไธโอน 250 มิลลิกรัม
และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น Co Q10 สารสกัดจากผักและผลไม้ และวิตามินอื่นๆ
– ตัวนี้เป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ 7000 มิลลิกรัม ก็ดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนไตรเปปไทด์
– มีไฮโดรไลซด์คอลลาเจน 3000 มิลลิกรัม ซึ่งดูดซึมได้ไม่ดีเท่าคอลลาเจนไตรเปปไทด์
– ตัวนี้มีวิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมของคอลลาเจน
– มีแอล-กลูต้าไธโอนซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนกลูตามิกเอซิด ซิสเทอีน และไกลซีน ซึ่งตัวไกลซีนจะช่วยเพิ่มการดูดซึมของคอลลาเจน
– มีสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิดซึ่งเน้นในเรื่องของการบำรุงผิว
– มีเลขอย.24-1-20555-1-0540

วิสทร้า เพียง คอลลาเจน ไดเปปไทด์
3.วิสต้า เพียว คอลลาเจน ไดเปปไทด์ 5000 mg
1 ซอง จะประกอบด้วย
คอลลาเจน ไดเปปไทด์ 5000 มิลลิกรัม
– ตัวนี้เป็นคอลลาเจนเดี่ยวๆ ไม่มีวิตามินซีหรือวิตามินอื่นๆช่วยเพิ่มการดูดซึม แต่เป็นคอลลาเจนที่มีขนาดเล็กที่สุดทำให้ดูดซึมได้ดีและเร็วกว่าไตรเปปไทด์
– มีอย.10-1-12650-5-0026

คอลลิจิ คอลลาเจน พลัสวิตามินซี
4.อมาโด้ คอลลิจิ คอลลาเจน ไตรเปปไทด์+วิตามินซี พลัสซี
– ตัวนี้เป็นของเชน ธนา มีขายที่วัตสัน โดย 1 ช้อนตวงจะประกอบด้วย
ไฮโดรไลซด์ คอลลาเจน ไตรเปปไทด์จากปลา 5000 มิลลิกรัม
วิตามิน ซี 30 มิลลิกรัม
– ตัวนี้เป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ก็ดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนเปปไทด์
– ตัวนี้เป็นคอลลาเจนไทพ์ทู (collagen type 2) 98% ซึ่งคอลลาเจนชนิดนี้จะเน้นไปที่กระดูกและข้อมากกว่าผิว มีวิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมของคอลลาเจน
– ตัวนี้ได้ทั้งเรื่องข้อและผิวพรรณ
– มีอย.74-1-07455-5-0364

แบรนด์แอคทีฟมูฟ
5.แบรนด์แอคทีฟมูฟ
– 1 เม็ดประกอบด้วย
ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนไทพ์ทู 50 มิลลิกรัม
อันดีเนเจอร์คอลลาเจนไทพ์ทู 40 มิลลิกรัม
วิตามินซี 20 มิลลิกรัม
– ตัวนี้เป็นคอลลาเจนไทพ์ทู (collagen type 2) ซึ่งคอลลาเจนชนิดนี้จะเน้นไปที่กระดูกและข้อมากกว่าผิว โดยมีการศึกษาพบว่าการกิน อันดีเนเจอร์คอลลาเจนไทพ์ทู 40 มิลลิกรัม สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อเข่าได้
– มีวิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมของคอลลาเจน
-ตัวนี้เน้นเรื่องกระดูกและข้อ
-มีเลขอย.10-3-05530-1-0023
ข้อควรระวัง
คอลลาเจนค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่คอลลาเจนมักสกัดจากปลา ไก่ หมู วัว ดังนั้นอาจจะต้องระวังในคนที่แพ้อาหารเหล่านี้อาจจะต้องเลือกคอลลาเจนที่ผลิตจากอาหารที่เราไม่แพ้ คอลลาเจนบางยี่ห้ออาจจะมีรสติดลิ้นได้ และในบางคนอาจจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกหลังจากรับประทานได้
คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของอวัยวะร่างกายหลายส่วน สามารถพบคอลลาเจนจากอาหารที่เรารับประทาน หรือสามารถรับประทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งช่วยเรื่องผิว กระดูก ข้อ และระบบหลอดเลือด หวังว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากติดตามบทความต่อไปด้วยนะคะ
Reference
1. “Oral supplementation of specific collagen peptides has beneficial effects on human skin physiology: a double-blind,placebo-contralled study”. Skin pharmacol physiol. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23949208. [12 พ.ค. 2020].
2. “Role of collagen hydrolysate in bone and joint disease”. Elsevier. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/11071580 .[12 พ.ค. 2020].
3. “6 benefits taking collagen supplement”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.healthline.com/nutrition/collagen-benefits.[12 พ.ค. 2020].
4. “Undenatured type II collagen for joint support”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4015808/ . [12 พ.ค. 2020].

เภสัชกรอิสรีย์ (นิก) นะคะ จบจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาแบ่งปันความรู้ด้านสุขภาพและอาหารเสริม หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ติดต่องาน : LINE @Bhaewow
E-mail : bhaewow@gmail.com
ติดตามเราได้ที่ : Youtube Bhaewow