วิตามินรวมสำหรับเด็ก ที่ไม่ชอบรับประทานผัก การปฏิเสธการรับประทานผักของเด็กไม่เพียงสร้างความกังวลให้ผู้ปกครอง แต่ยังส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กในระยะยาว เนื่องจากผักอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่จำเป็น ด้วยเหตุนี้ อาหารเสริมจึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในการเติมเต็มสารอาหารที่ขาดหายไป โดยเฉพาะในกลุ่มวิตามินและแร่ธาตุที่มักพบในผัก เช่น วิตามินซี วิตามินเอ และธาตุเหล็ก แม้ว่าอาหารเสริมจะไม่สามารถทดแทนคุณประโยชน์ทั้งหมดที่ได้จากการรับประทานผักสด แต่ก็เป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสมดุลสารอาหารให้กับร่างกายของเด็ก โดยเฉพาะในช่วงที่เด็กยังไม่สามารถปรับตัวให้ยอมรับการรับประทานผักได้
สารบัญบทความ
วิตามินรวมสำหรับเด็ก จำเป็นจริงหรือไม่
สารอาหารที่เด็กควรได้รับในแต่ละช่วงวัย
วิธีเลือกวิตามินรวมสำหรับเด็กที่เหมาะสม
วิตามินรวมสำหรับเด็กยี่ห้อไหนดี
เคล็ดลับช่วยให้เด็กได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
บทส่งท้าย
วิตามินรวมสำหรับเด็ก จำเป็นจริงหรือไม่
วิตามินรวมสำหรับเด็ก อาจจะจำเป็นสำหรับเด็กบางกลุ่มแต่ไม่ใช่ทุกคน ควรให้ความสำคัญกับการสร้างนิสัยการรับประทานอาหารที่ดีเป็นอันดับแรก และปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมในแต่ละคน การให้วิตามินรวมสำหรับเด็กนั้นมีทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณา วิตามินรวมอาจจะจำเป็นสำหรับเด็กที่ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่หรือเลือกทานมาก เด็กที่มีภาวะขาดสารอาหารหรือการเจริญเติบโตช้า เด็กที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เด็กที่ทานมังสวิรัติหรือวีแกน สำหรับเด็กที่ทานอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ มีสุขภาพแข็งแรง เจริญเติบโตปกติ ได้รับสารอาหารเพียงพอจากอาหารประจำวัน อาจจะไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารเสริมวิตามินรวม
สารอาหารที่เด็กควรได้รับในแต่ละช่วงวัย
วิตามินรวมสำหรับเด็ก ช่วยให้เด็กได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินดี กลุ่มวิตามินบี ธาตุเหล็ก และแคลเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการ การให้อาหารเสริมสำหรับเด็กนั้นขึ้นอยู่กับอายุ เพศ การเจริญเติบโต และกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน
วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาและผิวหนัง
วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อ และช่วยให้ร่างกายดูดซึมเหล็กได้ดีขึ้น
วิตามินดี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและบำรุงกระดูก
กลุ่มวิตามินบี ช่วยในการเผาผลาญอาหารและบำรุงระบบประสาท บำรุงร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
แคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
เหล็ก จำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
ไฟเบอร์ ช่วยในการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก และทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
โปรไบโอติกส์ ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
วิธีเลือกวิตามินรวมสำหรับเด็กที่เหมาะสม
ในการเลือกวิตามินรวมสำหรับเด็ก ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับลูกน้อย โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญในการเลือกวิตามินรวมสำหรับเด็ก โดยพิจารณาตาม
1.อายุของเด็ก วิตามินแต่ละสูตรจะมีปริมาณวิตามินและแร่ธาตุที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย ดังนั้นควรเลือกสูตรที่ตรงกับอายุของลูกน้อย หากเลือกวิตามินที่ไม่ตรงกับอายุอาจจะทำให้เด็กได้รับวิตามินที่เกินความจำเป็นกับร่างกายและเป็นอันตรายได้ ควรตรวจสอบชนิดและปริมาณที่ควรได้รับอย่างละเอียด
2.ความต้องการเฉพาะ หากลูกน้อยมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ขาดธาตุเหล็ก หรือมีปัญหาในการดูดซึมอาหาร คุณอาจต้องเลือกวิตามินสูตรเฉพาะที่เน้นการเสริมสารอาหารที่ขาด เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
3.รสชาติ เด็กส่วนใหญ่มักไม่ชอบรับประทานยาหรือวิตามินที่มีรสขม กลิ่นแรง หรือไม่อร่อย การเลือกวิตามินที่มีรสชาติอร่อย เช่น รสผลไม้ ที่ไม่เข้มข้นจนเกินไปจะช่วยให้ลูกน้อยรับประทานได้ง่ายขึ้น
4.รูปแบบ วิตามินสำหรับเด็กมีหลายรูปแบบ เช่น เม็ด เคี้ยวได้ หรือแบบน้ำ ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความชอบของลูกน้อย หากเด็กอายุน้อยมากจะแนะนำเป็นแบบน้ำ ทำให้กลืนง่ายได้รับวิตามินครบถ้วน หากเด็กโตสามารถรับประทานเป็นแบบเม็ดหรือแบบเคี้ยวก็ได้ และสะดวกต่อการพกพา
5.เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทย
ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนให้ลูกน้อยทานวิตามิน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสม เนื่องจากในเด็กบางคนรับประทานอาหารครบห้าหมู่ ได้รับสารอาหารครบถ้วนอยู่แล้ว
วิตามินรวมสำหรับเด็กยี่ห้อไหนดี
1.Nutroplex วิตามินรวมสำหรับเด็ก
วิตามินรวมที่มีใยอาหารธรรมชาติ ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร รูปแบบน้ำ รสส้มอ่อนๆไม่หวานหรือเปรี้ยวจนเกินไป รับประทานง่าย มีส่วนผสมเป็นวิตามินหลายชนิด เช่น โอลิโกฟรุคโตส เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ช่วยการทำงานของลำไส้ ธาตุเหล็ก วิตามินบีรวม วิตามินเอ วิตามินดี เลขทะเบียนจดแจ้งอย.73-1-00154-1-0261
2.ละมุน Lamoon Yummi-O
วิตามินที่จะช่วยเจริญอาหาร รูปแบบน้ำ มีไลซีน (Lysine) ที่ช่วยทำให้เจริญอาหารและเพิ่มน้ำหนักตัวของลูกน้อย มีกรดอะมิโน (Amino Complex) จำเป็นหลายชนิด ช่วยกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ตามธรรมชาติที่จำเป็นต่อการสร้างกล้ามเนื้อให้เติบโตสมวัย มีวิตามินรวมที่จำเป็นต่อการสร้างพลังงานให้ร่างกาย ให้ลูกรักเติบโตแข็งแรงสมวัย รสกีวี่รับประทานง่าย เลขทะเบียนจดแจ้งอย.11-1-22159-5-0011
3.มามารีน Mamarine Omega 3 plus Lysine วิตามินรวมสำหรับเด็ก
มามารีนคิดส์ (Mamarine Kids) เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม รูปแบบน้ำสําหรับเด็ก ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป ในรูปแบบน้ำ มีรสส้ม ทานง่าย ไม่มีกลิ่นคาว มีส่วนผสมจากน้ำมันปลาคุณภาพสูงจากประเทศไอซ์แลนด์ช่วยในเรื่องการเจริญอาหาร บํารุงสมอง พัฒนาความจํา มีพัฒนาการที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของไลซีน (Lysine) ช่วยเจริญอาหาร และแอล-กลูตามีน (L-Glutamine) ที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโต เป็นตัวช่วยในการสร้าง Growth Hormone ซึ่งมีผลต่อความสูง พร้อมวิตามินรวมช่วยในการบํารุงร่างกายที่สําคัญ ไม่มีน้ำตาล เลขทะเบียนจดแจ้งอย.73-1-00154-5-0011
4.กิฟฟารีน ไฟโต-คิดส์ Giffarine Phyto-kids วิตามินรวมสำหรับเด็ก
วิตามินรวมผักและผลไม้ ไฟโต-คิดส์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบเม็ดเคี้ยว รสชาติทานง่าย ประกอบด้วยซอร์บิตอล ไอโซมอลท์ โพลีเด็กซ์โดรส ผงผักและผลไม้รวม 40 มิลลิกรัม และ กรดแอสคอร์บิก 0.6 มิลลิกรัม เหมาะสำหรับเด็กที่ไม่ชอบรับประทานผักผลไม้ รับประทานง่ายพกพาสะดวก เลขทะเบียนจดแจ้งอย. 13-1-03440-2-0120
5.เด็กซ์ตร้า วิตามินรวมผสมไลซีน Dextra Multi Vitamin Plus Lysine
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินรวมเพิ่มน้ำหนักผสมไลซีน รูปแบบผงละลายน้ำ 1 กล่องบรรจุ 10 ซอง ผสมกับนมหรือเครื่องดื่มต่างๆ มีส่วนผสมของวิตามินบี วิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินละลายน้ำไม่สะสมในร่างกาย ไลซีนช่วยเจริญอาหาร และซิงค์ส่งเสริมการทำงานของภูมิคุ้มกัน เลขทะเบียนจดแจ้งอย.12-1-13657-5-0008
เคล็ดลับช่วยให้เด็กได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
การแก้ปัญหาลูกไม่ชอบทานผักนั้น พ่อแม่สามารถใช้เทคนิคง่ายๆ เริ่ม
1.ทำให้ผักดูน่ารับประทานด้วยการจัดแต่งเป็นรูปทรงน่ารักๆ เช่น รูปสัตว์ ดอกไม้ หรือการวางเรียงสีสันสวยงาม
2.การซ่อนผักในอาหารที่เด็กชอบ เช่น นำผักปั่นผสมในซอสสปาเกตตี้ ใส่ผักสับละเอียดในไข่เจียว หรือทำแพนเค้กผัก ซึ่งเด็กจะไม่รู้สึกว่ากำลังทานผักอยู่
3.การให้เด็กมีส่วนร่วมในการเตรียมอาหารก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เช่น พาไปเลือกซื้อผักในตลาด ปลูกผักสวนครัวด้วยกัน หรือให้ช่วยล้างผัก หั่นผัก จะทำให้เด็กรู้สึกภูมิใจและอยากลองชิมผลงานของตัวเอง
4.พ่อแม่ควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีด้วยการทานผักให้เด็กเห็นเป็นประจำ พร้อมทั้งชวนคุยถึงประโยชน์ของผักแต่ละชนิดอย่างสนุกสนาน ไม่ควรบังคับหรือดุว่าเมื่อเด็กไม่ยอมทาน เพราะจะยิ่งทำให้เด็กต่อต้าน
5.การให้รางวัลเมื่อเด็กยอมทานผักก็เป็นการเสริมแรงทางบวกที่ดี แต่ควรเป็นรางวัลที่ไม่ใช่ขนมหวานหรืออาหารที่ไม่มีประโยชน์ อาจเป็นการให้สติกเกอร์ หรือได้ทำกิจกรรมที่ชอบแทน
สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องใจเย็นและค่อยๆ ฝึกไปทีละนิด ให้เวลาเด็กได้ปรับตัวและค่อยๆ คุ้นเคยกับรสชาติของผัก จนกลายเป็นนิสัยที่ดีติดตัวไปในระยะยาว
บทส่งท้าย
วิตามินรวมสำหรับเด็ก เป็นอาหารเสริมที่เป็นเพียงส่วนเสริมสารอาหาร ควรพยายามให้ลูกน้อยรับประทานอาหารหลักที่หลากหลายและสมดุลควบคู่กันไป ให้ลูกน้อยรับประทานอาหารเสริมสำหรับเด็กในปริมาณที่ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดแนะนำ ไม่ควรให้เกินขนาดหรือมากเกินความจำเป็นเนื่องจากการให้เกินขนาดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ การให้อาหารเสริมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพของลูกน้อย การส่งเสริมให้ลูกน้อยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์หลากหลายชนิดและการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่ดีและเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์
อ้างอิง
1.ปริมาณของสารอาหารอ้างอิงสำหรับคนไทย 2563
2.Vitamins for kid : Do they need them?
เภสัชกรอิสรีย์นะคะ จบจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาแบ่งปันความรู้ด้านสุขภาพและอาหารเสริม หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ติดต่องาน : LINE @Bhaewow
E-mail : bhaewow@gmail.com
ติดตามเราได้ที่ : Youtube Bhaewow